Header Ads

test
Homepro Promotion

อาการมันฟ้องว่าต้องปรับความหนักหน่วงการใช้งาน “เครื่องออกกำลังกาย” !

แน่นอนว่าพวกเราทุกคนรู้ว่า การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ แต่หากเราออกกำลังกายหนักหน่วงจนกินไป ร่างกายของเราก็อาจจะรับไม่ไหว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการ Overtraining ขึ้นมาได้

ภาพจาก Groupon

*** Overtraining คือการที่เราออกกำลังกายแบบหนักเกินกว่าร่างกายของเราจะรับไหว หรือการออกกำลังกายที่ไม่สมดุลกับภาวะร่างกายของเรานั้นเอง หากเรายังคงดื้อดึงออกกำลังกายต่อไปเรือยๆ อาจจะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ หรือร้ายแรงที่สุดคือกล้ามเนื้อฉีกได้ค่ะ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : OVERTRAINING คืออะไรนะ ?

ภาพจาก beginogi.ru

ดังนั้นการออกกำลังกายแบบพอดีดี ค่อยเป็นค่อยไป แบบไม่ต้องรีบร้อน แต่ว่าทำอย่างต่อเนื่อง และทำอย่างเป็นประจำ จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการโหมออกกำลังกายอย่างหนัก ที่อาจจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บ หรือส่งผลกระทบต่อโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหอบ โรคความดันโลหิต

ขีดจำกัดร่างกาย


หลายคนก็คงรู้กันอยู่แล้วล่ะว่า การออกกำลังกายแบบเกินกำลังของตัวเอง จะส่งผลร้ายให้กับร่างกายแทนผลดี แต่เราจะรู้ว่าอย่างไรว่า ตัวเรานั้นออกกำลังกายอย่าง “หักโหม” หรือ “เต็มที่” มีอะไรเป็นตัวชี้วัดกันล่ะ ?

ภาพจาก ภาพจาก Lifebru

บางทีตัวเราเองก็ไม่รู้หรอกว่า ร่างกายมีขีดจำกัดอยู่ที่จุดไหน เพราะรู้ตัวกันอีกทีก็เลยพิกัดไปสะแล้ว หรือบางทีก็ไม่แน่ใจว่าพอเหมาะกับตัวเองหรือยัง เพราะสภาพร่างกายของเราแต่ละคนก็แตกต่างกัน การที่เราจะวัดว่าขีดจำกัดของเรางกายเราอยู่ที่จุดไหน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

สังเกตุอาการของตัวเอง


ไม่มีใครสามารถบอกขีดจำกัดร่างกายของเราได้ นอกจากตัวของเราเอง โดยเราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องอาศัยเครื่องมือทันสมัยอะไรมาวัดเลยค่ะ เราเพียงต้องทำแค่สังเกตุอาการที่แสดงออกมาทางร่างกายของเรา ขณะที่เรากำลังออกกำลังกายอยู่เท่านั้น ซึ่งเราสังเกตุได้จากอาการ …

ภาพจาก pranavahyoga.com

หัวใจเต้นแรง : ขณะที่เราออกกำลังกาย หากเมื่อใดคุณรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนบางครั้งอาจจะรู้สึกเจ็บหน้าอก หัวใจเต้นราวกับว่าจะทะลุออกมาจากในร่างกายของเรา แนะนำให้ควรหยุดพักร่างกาย

หายใจไม่ทัน : หากคุณออกกำลังกายไปสักระยะ แล้วมีอาการหายใจไม่ทัน ถึงแม้ว่าจะหายใจทางปากก็ยังรู้สึกไม่ช่วยอะไร แนะนำให้ควรหยุดพัก ค่อยๆลดระดับลงมาเพื่อเป็นการคูลดาวน์ร่างกาย อย่าหยุดแบบกะทันหัน

รู้สึกมึนและหน้ามืด : หากคุณออกกำลังกายแล้วจู่ๆรู้สึกมึนหน้ามืด คล้ายจะเป็นลม ให้ผ่อยการออกกำลังกายอย่างช้าๆ และค่อยๆนั่งลงพักร่างกาย อาการหน้ามืดนี้เป็นอาการของการไหลเวียนเลือดหรือออกซิเจนปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ

ภาพจาก Huffington Post

จากอาการที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการสังกตุเพื่อหาขีดจำกัดว่าร่างกายของตัวเราเอง ทีนี้เราก็จะทราบกันแล้วว่า ตัวเรานั้นเหมาะกับการออกกำลังกายในระดับไหน ซึ่งถ้าหากออกกำลังกายไปได้สักระยะหนึ่ง ก็ค่อยๆเพิ่มระดับความยากขึ้นเมื่อร่างกายของเราพร้อม แบบนี้จะดีกว่าเนอะ !

ไม่มีความคิดเห็น