รู้หลักก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย สุขภาพดี อย่างปลอดภัย

สุขภาพร่างกายที่ดี ย่อมส่งผลทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงเริ่มหันมาการออกกำลังกายกันมากขึ้น อย่างน้อยวันละ 30 นาทีก็มากเพียงพอที่จะช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงอย่างยั่งยืนแล้วล่ะค่ะ

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว เรื่องอาหารการกินก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยที่เราควรที่จะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ไม่ควรงดหรืออดอาหารโดยเด็ดขาดค่ะ ซึ่งถ้าหากเราสามารถออกกำลังกายควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สุขภาพของคุณก็จะแข็งแรงและอายุยืนยาวอย่างแน่นอน

5 ข้อควรรู้ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย

จากบทความที่แล้ว 5 ข้อควรรู้ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย ! ได้นำเสนอสิ่งที่ควรปฏิบัติกันก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย ว่าเราจะต้องรู้จักประมาณตน ห้ามหักโหมออกกำลังกายเด็ดขาด เวลาที่เหมาะสำหรับออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ หลังจากที่เราเสียน้ำในร่างกายออกไปมาก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งในบทความนี้จึงขอเสนอแนวทางควรปฏิบัติสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกายอีก 5 ข้อ เพื่อสร้างคงามปลอดภัยและช่วยให้เราสามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มปนะวิทธิภาพมากที่สุดค่ะ

การแต่งกายให้เหมาะสม

การเลือกชุดเพื่อที่จะออกกำลังกาย ควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถระบายความร้อนได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพราะความร้อนเป็นตัวจำกัดความสามารถในการออกกำลังกายของเรา ซึ่งถ้าหากเราออกกำลังอย่างหักโหมแถมยังใส่เสื้อผ้ารัดกุมไม่ระบายอากาศ อาจจะทำให้เราเป็นลมได้ค่ะ นอกจากเสื้อผ้าแล้ว

รองเท้าก็มีความสำคัญในการออกกำลังกายนะคะ ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะกับสภาพของสนามและเหมาะกับการออกกำลังกายโดยเฉพาะเพื่อความคล่องตัวค่ะ

การรับประทานอาหาร

อย่างที่พูดกันไปข้างต้น ว่าการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่จะช่วยทำให้สุขภาพของเราแข็งแรง ไม่ควรงดอาหารอย่างเด็ดขาด แต่การรับประทานอาหารก็ไม่ควรที่จะทานก่อนเริ่มออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไปค่ะ เพื่อป้องกันอาการจุกเสียด โดยเฉพาะกีฬาที่จะตองใช้แรงมากๆและใช้เวลาออกกำลังกายเป็นเวลานาน

พักผ่อนให้เพียงพอนะ

หลังจากการออกกำลังกาย เราควรจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่กันไปด้วยค่ะ เพราะการที่เราใช้เวลาในการออกกำลังกายเป็นเวลานาน ร่างกายย่อมอ่อนล้าเป็นธรรมดา ดังนั้นการนอนหลับพักผ่อนจึงช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้พร้อมกับการออกกำลังกายในวันพรุ่งนี้ !

ร่างกายพร้อม

ก่อนที่เราจะเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง เราควรรู้สภาพร่างกายของเราว่า ไม่มีอาการบาดเจ็บ ไม่ได้ป่วยไม่สบาย ร่างกายพร้อมที่จะออกกำลังกายหรือไม่ ซึ่งถ้าหากคุณกำลังไม่สบาย แนะนำให้พักผ่อนร่างกายให้ฟื้นตัวเสียก่อนค่ะ หรือถ้าหากคุณมีโรคประจำตัวก็ควรปรึกษาแพทย์ว่าการออกกำลังกายแบบไหนถึงจะเหมาะสม

จิตใจพร้อม

ในเรื่องความพร้อมของจิตใจก็มีความสำคัญไม่แพ้กับร่างกาย ก่อนที่เราจะเริ่มออกกำลังในแต่ละวัน จิตใจของเราจะต้องปลอดโปร่ง ไม่เหม่อลอยคิดเรื่องกังวลใจ เพราะถ้าหากความคิดของเราไม่ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า อย่างเช่น กำลังวิ่งอยู่บน ลู่วิ่งไฟฟ้า ลู่เดินวงรี แต่ใจกลับคิดเรื่องอื่นอาจจะทำให้เสียจังหวะการวิ่ง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นอันตรายได้ค่ะ