วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เทคนิคคำนวณราคาเครื่องออกกำลังกายมาใช้งานที่บ้าน

การที่เรามีเครื่องออกกำลังกายในบ้าน เป็นการสร้างความสะดวกสบายให้กับการดูแลสุขภาพของตัวเราอีกทางหนึ่ง ที่หลายคนก็ตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกายรูปแบบคาดิโอมาใช้งานที่บ้าน เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดสรรเวลาสำหรับการออกกำลังกายได้มากยิ่งขึ้น

ภาพจาก Blue Maize

หลายคนชอบบอกว่าตัวเองไม่ค่อยที่จะมีเวลาในการออกกำลังกาย ทำงานก็เช้า เลิกงานก็ดึก อารมณ์ ณ จุดๆนั้นก็คงอยากที่จะกลับบ้านอาบน้ำนอนกันแล้ว จะให้ไปวิ่งที่สวนสาธารณะ ก็ดึกเกินไป จะให้ไปฟิตเนสก็มีปัญหารถติดน่าเบื่ออีก ดังนั้นการเลือกเครื่องออกกำลังกายมาใช้งานที่บ้าน จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากที่สุด

เทคนิคคำนวณราคาเครื่องออกกำลังกาย


ก็อย่างที่เรารู้กันค่ะว่า เครื่องออกกำลังกายแต่ละชนิดก็ค่อนข้างที่จะมีราคาสูง ดังนั้นการตัดสินใจเลือก จึงต้องคำนึงถึงอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเครื่องออกกำลังกาย ไลฟ์สไตล์ของเราเอง และสภาพพื้นที่ของที่อยู่อาศัย ว่าหากเราเลือกมาใช้งานที่บ้านแล้ว จะคุ้มราคาหรือไม่ ?


ประเภทของเครื่องออกกำลังกายกับไลฟ์สไตล์


ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ไลฟ์สไตล์ของตัวเองเป็นอย่างไร ชีวิตประจำวันมีเวลาว่างให้กับการออกกำลังกายในช่วงไหนบ้าง และอยากออกกำลังกายเพื่ออะไร เพื่อการลดน้ำหนัก เพื่อการสร้างกล้ามเนื้อ หรือเพื่อสุขภาพเฉยๆ

ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก


หากคุณต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก แนะนำให้เลือกเครื่องออกกำลังกายประเภทคาดิโอมาใช้งานที่บ้าน อย่างพวก ลู่วิ่งไฟฟ้า ลู่เดินวงรี หรือจักรยานออกกำลังกาย เน้นการออกกำลังกายเป็นระยะเวลานาน ถ้าอยากเห็นผลต้อง 30-45 นาที/วัน


ออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ


หากเน้นในเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อ และกระชับสัดส่วน แนะนำให้เลือกอุปกรณ์อย่างพวก ดัมเบล ม้านั่งซิทอัพ มาใช้งาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ควรที่ทำไปพร้อมกับการคาดิโอ แต่ถ้าหากไม่มีเวลามากพอ ก็เน้นสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มากขึ้นก็เพียงพอ


ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ


ไม่ได้อยากลดน้ำหนัก หรือมีกล้ามแน่นๆ แต่อยากออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เน้นออกเพื่อการผ่อนคลายร่างกาย ยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อ การเล่นโยคะเป็นคำตอบที่เหมาะสำหรับคุณค่ะ


ใช้งานเครื่องออกกำลังกายคนเดียว ?


อีกปัจจัยในการตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกายมาใช้งานในบ้านคือ เราใช้งานคนเดียว หรือว่าใช้งานกันทั้งครอบครัว ถ้าหากใช้งานคนเดียว ก็เลือกเครื่องออกกำลังกายที่มีขนาดกะทัดรัดสักหน่อย ไม่ต้องใหญ่มาก เน้นใช้งานและจัดเก็บสะดวก


แต่ถ้าหากที่บ้านมีหลายคน ใช้งานกันบ่อยครั้ง ก็เลือกเครื่องออกกำลังกายแบบขนาดใหญ่ขึ้นมาสักนิดนึง สามารถรองรับน้ำหนักและมีความแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือต้องเป็นเครื่องออกกำลังกายที่สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยอีกด้วย

สภานที่ภายในบ้าน


สิ่งที่ควรคำนึงถึงอีกอย่างคือ ที่อยู่อาศัย หากคุณอยู่บ้านเดี่ยว มีพื้นที่มากเพียงพอที่จะทำการจัดตั้งเครื่องออกกำลังกายในบ้านขนาดใหญ่เอาไว้ได้แบบสบายๆ ก็จัดไปเลยค่ะรุ่นใหญ่ฟกระพริบ


แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่คอนโดหรืออพาร์ทเมนต์ จะต้องเลือกเครื่องออกกำลังกายที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย เพื่อประหยัดพื้นที่ และที่สำคัญคือจะต้องเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ไม่ส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วยค่ะ

วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เตรียมตัวก่อนไปออกกำลังกายกลางแจ้ง

หากพูดกันถึงเรื่องของการออกกำลังกาย ก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกีฬาในร่ม หรือกลางแจ้ง ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวก และความชื่นชอบของแต่ละคน ว่าชอบออกกำลังกายในฟิตเนส หรือชอบออกกำลังกายกลางแจ้ง ชมบรรยากาศแบบเพลินๆ

ภาพจาก junglefox.me

แต่ถ้าให้เลือกว่าจะออกกำลังกายในร่มหรือกลางแจ้งดี ? ก็ต้องแนะนำให้ไปออกกำลังกายกลางแจ้งกันน่าจะเหมาะกว่า เพราะการออกกำลังกายกลางแจ้ง จะได้พบปะผู้คนมากมาย ทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อ และยังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศความเป็นธรรมชาติรอบตัวอีกด้วย

การเตรียมตัวก่อนไปออกกำลังกายกลางแจ้ง


สำหรับคนที่กำลังวางแผนไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะแถวบ้าน จะต้องเตรียมตัวทั้งร่างกาย และอุปกรณ์ให้พร้อม เพื่อสร้างความสะดวกและความปลอดภัยในการออกกำลังกายนอกบ้าน ลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเราจะต้องเตรียมอะไรกันก่อนบ้างล่ะ ? มาดูกันเลย !

ภาพจาก Active.com

เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม


อันดับแรกก่อนที่เราจะไปออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายคล่องตัว ระบายอากาศได้ดี เพราะอากาศบ้านเราก็ค่อนข้างร้อน ควรเลือกเวลาในการออกกำลังเป็นช่วงเช้า ไม่ก็ช่วงเย็นไปเลย เพื่อหลีกเลี่ยงแดดอันร้อนเปรี้ยง ซึ่งอาจจะทำให้เราหน้ามือเป็นลมได้ค่ะ

ภาพจาก Huffington Post

อย่าลืมน้ำดื่มเด็ดขาด


การที่เราไปออกกำลังกายภายนอก น้ำดื่ม เป็นสิ่งที่เราควรนำติดตัวไปด้วย เพราะเวลาเราออกกำลังกาย เราจะเสียเงื่อ เสียน้ำในร่างกายเยอะมาก ควรมีน้ำดื่มสำหรับดื่มเพื่อชดเชยเป้นระยะ ทดแทนส่วนที่เสียไป และเพื่อระบายความร้อนในร่างกายได้ดีอีกด้วยค่ะ

ภาพจาก Mr Fitbody

เลือกสถานที่ออกกำลังกาย


การออกกำลังกายภายนอก จะต้องเลือกสถานที่ที่มีความบริสุทธิ์สักนิด อย่างเช่นพวกสวนสาธารณะ ที่มีการปลูกต้นไม้อย่างร่มรื่น หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นควันจากท่อไอเสีย หรือสถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศ เพราะเวลาเราออกกำลังกาย เราจะมีการหายใจที่หนัก และแรง แทนที่เราจะได้อากาศบริสุทธิ์กลับกลายเป็นการรับสารพิษเข้าร่างกายแทนสะงั้น

นอกจากเรื่องของอากาศแล้ว เรื่องความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง แนะนำให้เลือกสถานที่ที่มีผู้คนมาออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่สถานที่เปลี่ยว หรือสุ่มเสี่ยง

ภาพจาก Nutrition Realm

ตรวจสอบสภาพอากาศ


ก่อนออกไปวิ่งตามสวนสาธารณะ ลองตรวจสอบสภาพอากาศกันเสียก่อน ว่าวันนี้แดดออกหรือฝนตก (อากาศหนาวนี่คงไม่มีในประเทศไทยล่ะเนอะ) เพื่อเตรียมพร้อมรับทุกสภานการณ์ หากเป็นช่วงหน้าร้อนแดดจัดๆ หรือวันไหนฝนตก ก็เดินเข้าฟิตเนสแทน

ภาพจาก Theale Wellbeing Centre

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เทคนิคการยืดกล้ามเนื้อ หลังจากปั่นจักรยานออกกำลังกาย

ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายประเภทใดก็ตาม กล้ามเนื้อต่างๆ ย่อมเกิดอาการตึง บางคนอาจจะรู้สึกปวดเมื่อยหลังจากการออกกำลังกาย ซึ่งหากคุณมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า กล้ามเนื้อเกิดอาการบาดเจ็บสะสม เป็นเวลานาน

ภาพจาก bodybuilding.com

ถ้าหากคุณฝืนออกกำลังกายต่อไป อาจจะเกิดอาการเจ็บปวดแบบเรื้อรัง และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เคลื่อนไหวไม่สะดวกเหมือนปกติ ดังนั้นเพื่อป้องกันอาการปวดกล้ามเนื้อ หลังจากการออกกำลังกาย สามารถทำได้ด้วยการยืดคลายกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม

เทคนิคการยืดกล้ามเนื้อ


สำหรับบทความนี้ จะขอแนะนำในเรื่องของเทคนิคการยืดกล้ามเนื้อหลังจากการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะต้องทำการยืดกล้ามเนื้อภายใน 30 นาทีหลังจากการปั่นจักรยานออกกำลังกายเสร็จ โดยสามารถทำได้ด้วยการยืดหล้ามเนื้อน่อง หลัง ไหล่ และสะโพก ด้วยท่าพื้นฐานง่ายๆ โดยใช้เวลาเพียง 30 วินาทีต่อท่าก็เพียงพอ

ภาพจาก news.voicetv.co.th

แล้วการยืดหล้ามเนื้อก่อนปั่นจักรยานล่ะ ?


สำหรับ เครื่องปั่นจักรยานออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องทำการวอร์มอัพก่อนปั่นก็ได้ค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นการปั่นจักยานแบบช้าๆเบาๆก่อนสัก 10-15 นาทีก็เพียงพอ โดยการออกกำลังกายให้เห็นผลและเผาผลาญไขมันได้ดี ควรปั่นประมาณ 30 – 45 นาที/วัน ค่ะ

ภาพจาก Wahoo Fitness

สิ่งที่ควรทราบ


สิ่งที่ควรทราบก่อนยืดกล้ามเนื้อ คือเราควรทำแบบพอดี ไม่ต้องออกแรงมากจนเกิดอาการปวดหรือเกร็ง แต่ก็ไม่ใช่ออกแรงน้อยจนไม่เกิดความรู้สึกอะไรเลยที่กล้ามเนื้อ ความพอดีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในการรักษาสภาพและเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

จักรยานออกกำลังกาย ป้องกันเส้นเลือดขอดที่ขา

สาวๆหลายคนมีความกังวลในเรื่องของเรียวขากันเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอาการเส้นเลือดขอดที่ขา ริ้วรอยเส้นเลือดที่เห็นได้อย่างชัดเจน สร้างความหงุดหงิดใจอย่างมากสำหรับสาวๆหลายคน ซึ่งตามสถิติทางการแพทย์พบว่าเส้นเลือดขอดมักจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า !

ภาพจาก Livestrong.com

อาการเส้นเลือดขอดในขา เป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง กระตุ้นให้เกิดอาการได้มากกว่า ส่วนใหญ่จะพบมากในหญิงมีครรภ์ มีน้ำหนักมาก หรือต้องนั่ง ต้อนยืน หรือต้องเดินเป็นเวลานานๆ ส่งผลให้ระบบไหลเวียนของเลือดบริเวณขา ไหลเวียนไม่สะดวก

อันตรายของเส้นเลือดขอดที่ขา


ภาวะเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอาการเส้นเลือดขอด ซึ่งแน่นอนว่าหากเกิดขึ้นกับใคร ส่งผลให้ความมั่นใจในการโชว์เรียวขาลดลงฮวบฮาบเลยทีเดียว ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่มีอาการเจ็บปวดร่วม เพียงแต่เป็นริ้วรอยสร้างความหงุดหงิดใจ เพียงแค่ดูไม่น่ามองเท่านั้น

ภาพจาก 360ongsaonline.com

แต่ถ้าหากใครมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ตรงนี้เรียกได้ว่าอันตรายค่ะ เพราะอาการเส้นเลือดขอดที่ขา เป็นโรคที่เกิดกับหลอดเลือดจึงส่งผลกระทบไปถึงการทำงานของหัวใจ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา และควรรีบไปพบแพทย์

แนวทางการแก้ไข


เส้นเลือดขอดที่ขา อาจจะดูเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ นอกจากไปพบแพทย์ แต่ความเป็นจริงแล้ว การออกกำลังกาย ก็เป็นอีกแนวทางในการแก้ไขและป้องกันเส้นเลือดขอดที่ขาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทางหนึ่งค่ะ

ภาพจาก WebMD

จากที่กล่าวมาข้างต้น สาเหตุของอาการเส้นเลือดขอดที่ขา เกิดจากน้ำหนักตัวมาก และอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานไม่สะดวก การออกกำลังกาย ขยับแข้ง ขยับขา เคลื่อนไหวร่างกาย จะช่วยทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกมากขึ้น

นอกจากนี้การออกกำลังกาย ยังช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหลักอีกอย่างที่ก่อให้เกิดเส้นเลือดขอดที่ขา แล้วเราจะเลือกเครื่องออกกำลังกายแบบไหนดีที่สุด ในการใช้แก้ปัญหาและป้องกันอาการเส้นเลือดขอดที่ขาได้ดีมากที่สุด ?

ภาพจาก FitnessVerve

จักรยานออกกำลังกายแก้ไขปัญหาเส้นเลืออดขอดที่ขา


เครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับใช้ป้องกันและแก้ไขปัญหาเส้นเลือดขอดที่ขามากที่สุด จะต้องเน้นการออกกำลังกายในส่วนขามากที่สุด ซึ่งก็ได้แก่จักรยานออกกำลังกายนั้นเองค่ะ

การออกกำลังกายด้วยจักรยานออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มการสูบฉีดเลือดไหลเยนในส่วนขาเพิ่มมากขึ้น เส้นเลือดมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ไม่เกิดการจับเกาะจนปูดโปนของเส้นเลือดดำ ทำให้ไม่เกิดริ้วรอยและยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย ประโยชน์ 2 ต่อแบบนี้ จะรออะไรล่ะคะ ปั่นวนไปสิคะ !

ภาพจาก Spinning

ก่อนเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกาย หันมาดูไลฟ์สไตล์ของตัวเองด้วยนะ !

ได้ยินมาบ่อยมากสำหรับคนที่กำลังเริ่มวางแผนที่จะออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเพื่อการลดน้ำหนัก หรือเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มักจะมีคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยกันว่า “จะเลือกเครื่องออกกำลังกายในบ้าน ชนิดไหนดีล่ะ ?” ที่จะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้เร็ว หรือใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และราคาถูก…

ภาพจาก movimentese.catracalivre.com.br

เลือกเครื่องออกกำลังกายแบบไหนดี เป็นคำถามที่ชวนปวดหัวทั้งสำหรับคนถูกถาม และคนตัวผู้ถามเอง เพราะคำตอบไม่สามารถระบุได้อย่างเจาะจงและชัดเจน เนื่องจากเครื่องออกกำลังกายแต่ละประเภท ก็มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่าง การเลือกเครื่องออกกำลังกายแบบไหน ถึงจะเหมาะสม จึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมากกว่า

เลือกเครื่องออกกำลังกายแบบไหนดี


คนที่เคยมีประสบการณ์เลือกเครื่องออกกำลังกายมาก่อน ก็อาจจะพอตอบได้ว่า เครื่องออกกำลังกายแบบไหน ใช้งานอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร แต่ต้องเข้าใจกันก่อนว่า สิ่งที่เขาตอบเรามา คือ สิ่งที่เหมาะสมกับตัวของเขา เขาใช้แล้วเห็นผล แต่เครื่องออกกำลังกายนั้น เหมาะกับเรารึเปล่า ? อันนี้เราต้องหาคำตอบด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจค่ะ

ภาพจาก Tutorialized

เครื่องออกกำลังกายกับไลฟ์สไตล์


สิ่งที่จะสามารถช่วยให้เราตัดสิจใจว่า จะเลือกเครื่องออกกำลังกายแบบไหนดี ให้พิจารณาจากไลฟ์สไตล์ของตัวเราเอง ว่าเรามีรูปแบบการใช้ชีวิตของเราเป็นอย่างไร เพื่อที่จะสามารถเลือกเครื่องออกกำลังกาย ที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตให้เกิดผลที่ดีที่สุด

ภาพจาก Pinterest

ยกตัวอย่างเช่น ไลฟ์สไตล์ของคุณ มักจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้านมากกว่ากัน มีเวลาว่างมากแค่ไหน เวลาไหนที่เราคิดว่า เราจะสามารถออกกำลังกายได้มากที่สุด และจุดประสงค์การออกกำลังกายในครั้งนี้ คือการออกกำลังเพื่อลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพ หรือเพื่อสร้างกล้ามเนื้อกระชับสัดส่วน

ปัญหาเรื่องสุขภาพ


โดยช่วงเวลาที่การออกกำลังกายแล้วเห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุดคือวันละอย่างน้อย 30 นาที นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่จะต้องหยิบยกมาพิจารณาประกอบด้วยเช่นกัน อาทิ คุณมีปัญหาเรื่องอาการปวดข้อเข่า การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง หรือมีแรงกระแทกหนักๆ จะไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง


เครื่องออกกำลังกายแบบไร้แรงกระแทก


สำหรับคนที่มีอาการปวดข้อเข่า หรือข้อเข่าเสื่อม แนะนำให้เลือกเครื่องออกกำลังกายรูปแบบไร้แรงกระแทก อย่างเช่นพวก ลู่เดินวงรี จักรยานออกกำลังกาย หรือพวกอุปกรณ์ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อแบบเบาๆ มาใช้งานจะเหมาะมากกว่า

ลู่เดินวงรีรุ่นแนะนำ


ลู่เดินวงรี SLIMMATE SM 830 รองรับน้ำหนักตัวผู้เล่นได้สูงสุด 95 กก. สามารถปรับความฝืดแบบ Manual ได้ 8 ระดับ หน้าจอ : LCD แสดงค่า เวลา, ความเร็ว, ระยะทาง, แคลอรี่, อัตราการเต้นของหัวใจ , ความเร็วรอบต่อนาที , ระยะทาง


มีโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย (Recovery) วัดชีพจรด้วยระบบสัมผัส (Hand Pulse) เป็นระบบแม่เหล็กที่ควบคุมแรงหมุนคงที่ตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย ปรับระดับที่วางเท้าได้ 3 ระดับ

จักรยานออกกำลังกายรุ่นแนะนำ


จักรยาน 360 องศาฟิตเนส AM-S2000T WHITE-BLACK จักรยานปั่นออกกำลังกาย Spin Bike 18KG. รุ่น AM-S2000T ตัวเครื่องทำจากเหล็กที่มีคุณภาพสูง (High Quality Steel) Flying wheel ใช้จานเหล็กหนัก 18KG.


ขับเคลื่อนด้วยระบบสายพาน หน้าจอจักรยานออกกำลังกาย มี Monitor: 1 LCD display, บอกเวลา (Time), ความเร็ว (Speed), ระยะทาง (Dist), แคลลอรี่ (Cal) และมีที่วัดหัวใจ (Pulse) มือจับ มียางกันลื่นทำให้จับได้กระชับมือ สามารถปรับระดับความหนืดได้ตามต้องการ ระบบเบรกใช้งานง่าย และปลอดภัย

วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560

จักรยานออกกำลังกาย ลดน่อง หรือ น่องโป่ง กันแน่ ?

เป็นข้อถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในกลุ่มคนที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกาย ประเภทจักรยานออกกำลังกาย โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ว่าการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะทำให้น่องเราโป่งขึ้น หรือว่าจะสามารถช่วยลดน่องให้ดูเรียวสวยได้กันแน่ ?

ภาพจาก metrorecplex.com

ไม่ว่าจะสาวเล็ก สาวใหญ่ ใครๆก็ต้องกังวลในเรื่องของเรียวขากันทั้งนั้น เพราะคงไม่มีใครอยากที่จะมีขาที่โป่งพองเป็นกล้ามมัดๆกันใช่รึเปล่าล่ะ ? เพราะใครๆก็อยากที่จะมีเรียวขาที่เพรียวสวย การมองหาเครื่องออกกำลังกายที่จะสามารถกระชับในส่วนของต้นขาได้นั้น ก็มีอยู่ไม่กี่ประเภท

ภาพจาก baratocoletivo.com.br

และเครื่องออกกำลังกาย 1 ในนั้นก็คือ จักรยานออกกำลังกายนั้นเองค่ะ แต่หลายคนก็เกิดความกังวลว่า ปั่นจักรยานออกกำลังกายแล้วขาโป่ง อันนี้ต้องบอกเลยว่าขาโป่งแน่ ถ้าหากปั่นจักรยานออกกำลังกายด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง !

ปั่นจักรยานออกกำลังกายอย่างไรไม่ให้ขาโป่ง


เนื่องจากถ้าหากเราปั่นจักรยานออกกำลังกาย ด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง กล้ามเนื้อช่วงขาจะเกิดการขยายตัวในส่วนที่ออกแรงมากเป็นพิเศษ (ลักษณะเดียวกับการเล่นดัมเบล) แต่ถ้าหากปั่นจักรยานออกกำลังกายด้วยท่วงท่าที่ถูกต้องแล้ว รับรองว่าน่องไม่โป่ง แถมขาเรียวสวยอีกด้วยค่ะ

ภาพจาก peter-suesse.de

ปัญหาน่องโป่งเกิดจาก


เรามาดูกันค่ะว่าปัญหาน่องโป่งเกิดจากอะไร เพื่อที่จะหาทางแก้ไขและป้องกันได้ทันท่วงที เริ่มจากสาเหตุแรกของปัญหาการใช้งานจักรยานออกกำลังกายแล้วน่องโป่ง เกิดจากการปรับขนาดความสูงของเบาะนั่งที่ไม่เหมาะสมกับสรีระร่างกายของตัวเราเอง ส่งผลให้เราต้องออกแรงในการปั่นมากกว่าปกติ

ภาพจาก Woman - The Nest

ปั่นจักรยานด้วยแรงหน่วงมากกว่าปกติ


การปรับแรงหน่วงของการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะต้องลดระดับลงให้สามารถปั่นได้สบายแบบใช้แรงน้อย ไม่ต้องออกแรงและเกร็งกล้ามเนื้อขามากนัก เน้นการปั่นได้รอบสูงมากกว่า รับรองได้ว่าน่องไม่โตอย่างแน่นอน

เปรียบภาพให้เห็นชัดก็คือ การปรับแรงหน่วงแบบน้อยสุด จะเหมือนการปั่นแนวราบ ไม่ต้องออกแรงมากเหมือนกับการปั่นจักรยานขึ้นภูเขา ที่จะต้องออกแรงและเกร็งกล้ามเนื้อขามากกว่าปกติค่ะ

สรุปคือ ปั่นจักรยานออกกำลังกาย
เน้นเร็ว ไม่เน้นหน่วง นะ จ๊ะ

วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เครื่องออกกำลังกาย 300 นาที/week เพื่อลดน้ำหนักอย่างเห็นผล

หลายคนคิดวางแผนที่จะเริ่มน้ำหนัก แต่ก็ยังมีคำถามมากมายว่า จะต้องใช้เครื่องออกกำลังกายหักโหมแค่ไหน หรือเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ ถึงจะเห็นผลได้เร็ว เพราะเห็นบางคนใช้เครื่องออกกำลังกายมาเป็นเวลานานพอสมควร แต่น้ำหนักก็ไม่ลดลงอย่างที่คิด

ภาพจาก New Jersey City University

การใช้งานเครื่องออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก ไม่จำเป็นต้องหักโหมขนาดออกวันละ 2-3 ชั่วโมง เพราะการออกกำลังกายที่ดีที่สุด คือจะต้องเหมาะสมกับสภาพร่างกายของเราด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอาการ Overtraining ได้ค่ะ

ติดตามอ่านรายละเอียดและแนวทางการป้องกันอาการ Overtraining ได้ที่




ใช้เครื่องออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง


เคล็ดลับง่ายๆในการใช้งานเครื่องออกกำลังกาย เพื่อการลดน้ำหนักให้เห็นผลอย่างชัดเจน สามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกาย 300 นาที/week ประมาณ 5 ชั่วโมง ก็เพียงพอค่ะ

โดยคุณอาจจะจัดสรรเวลาในการออกกำลังกาย จันทร์ – ศุกร์ วันละ 1 ชั่วโมงหลังเลิกงาน และหยุดพักวันเสาร์และอาทิตย์ พักผ่อนร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ตามนี้ก็ได้ค่ะ

ภาพจาก proteinzona.sk

อุปสรรคการออกกำลังกาย


แต่แน่นอนว่าบางคนก็ไม่ได้มีเวลามาออกกำลังกายมากนัก ภาระกิจและหน้าที่ของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางวันทำงานแต่เช้า เลิกงานก็ดึกดื่น อารมณ์ในการออกกำลังกายก็ลดลงฮวบฮาบเลยทีเดียว ดังนั้นการกำหนดวันในการออกกำลังแบบเป๊ะๆ จึงไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมนัก

ภาพจาก YEG Fitness

สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะมีเวลาในการออกกำลังกาย แนะนำให้แบ่งการออกกำลังกายเป็นช่วงๆ อย่างเช่น ตื่นเช้ามาออกกำลังสัก 30 นาที ตอนเย็นก่อนกลับบ้าน ก็แวะออกกำลังกายต่ออีกสัก 30 นาที วันไหนเช้าไม่ว่าง ก็ออกแค่ตอนเย็น เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการออกกำลังกายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด

เครื่องออกกำลังกายในบ้าน


การเลือกเครื่องออกกำลังกายในบ้าน ก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ดี เพราะหากคุณมีเครื่องออกกำลังกายในบ้านไว้ใช้งาน จะเลือกออกกำลังกายตอนไหนก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของเรา แต่ภายใน 1 สัปดาห์ จะต้องรวมเวลาที่ใช้ออกกำลังกายได้ไม่น้อยกว่า 300 นาที นะคะ

ภาพจาก www.midstatesfitness.com

วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560

การใช้งานเครื่องออกกำลังกาย กับ อัตราการเต้นของหัวใจ

การใช้งานเครื่องออกกำลังกาย กับ อัตราการเต้นของหัวใจ แน่นอนว่ามีส่วนที่สัมพันธ์กันอย่างยิ่ง เพราะการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกาย จะต้องออกกำลังในระยะเวลาประมาณ 30 – 45 นาที และอยู่ในระดับการเต้นของหัวใจที่เหมาะสมอีกด้วย

ภาพจาก stethnews.com

แล้วระดับอัตราการเต้นของหัวใจ จะต้องอยู่ที่ระดับไหนถึงจะเหมาะมากที่สุดในการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานกันล่ะ ? อันนี้ก็ไม่ยากค่ะ เพราะเรามีสูตรคำนวณอัตราการเต้นของหัวใจขณะใช้เครื่องออกกำลังกายแบบคร่าวๆ มาให้เพื่อนๆได้ลองเก็บไปคพนวณกันดู คือ …

การคำนวณอัตราการเต้นของหัวใจ


การคำนวณทำได้ด้วยการตั้งเลข 220 แล้วลบออกด้วยอายุของคุณ ก็จะได้ค่าประมาณอัตราการเต้นของหัวใจที่เหมาะสมกับคุณแล้วล่ะค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น คุณอายุ 35 ปี 220 – 35 = 185
สรุปคืออัตราการเต้นของหัวใจระดับ 185 ต่อนาที เป็นอัตราที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ

เครื่องออกกำลังกายกับอัตราการเต้นของหัวใจ


เมื่อเราทราบอัตราการเต้นของหัวใจระดับที่เหมาะสมของร่างกายของเราแล้ว เรามาเริ่มต้นใช้เครื่องออกกำลังกายแบบคาดิโอ เพื่อการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ภาพจาก brandchannel

เมื่อเราใช้งานเครื่องออกกำลังกายในอัตราที่เหมาะสมแล้ว รับรองเลยค่ะว่าร่างกายของเราจะเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น รูปร่างเพรียวสวย จัดการกับไขมันส่วนเกินในร่างกายได้อย่างอยู่หมัดอย่างแน่นอน

อัตราการเต้นของหัวใจสำหรับผู้เริ่มต้น


สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย แนะนำว่าอย่าเพิ่งหักโหมเร่งอัตราการเต้นของหัวใจมากนัก ระดับที่พอเหมาะสำหรับคนเริ่มใหม่คือ 50% ของอัตราที่เหมาะสม อย่างเช่น อายุ 35 ปี อัตราการเต้นที่ดีที่สุดอยู่ที่ 185 ลดลงมาครึ่งหนึ่งคือ 92 ต่อนาทีก็พอค่ะ

ภาพจาก Tom's Guide

หลังจากเริ่มออกกำลังกายอยู่ในระดับนี้มาพอสมควรแล้ว (2-3เดือน) ให้ค่อยๆเพิ่มระดับขึ้นอย่างช้าๆ เป็น 75% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด และเพิ่มเป็น 100% หลังจากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลามากกว่า 4-5 เดือน

เลือกเครื่องออกกำลังกายให้เหมาะสม


นอกจากการวัดระดับอัตราการเต้นของหัวใจให้เหมาะสมกับร่างกายของเราแล้ว การเลือกเครื่องออกกำลังกายให้เหมาะสมก็เป็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเครื่องออกกำลังกายแต่ละประเภท ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคนเลย

ภาพจาก panduanhidupsehat.com

บทความที่เกี่ยวข้อง :



ทานโปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตควบคู่กับการใช้เครื่องออกกำลังกาย อย่างไรให้เห็นผล !

ในช่วงการลดน้ำหนัก การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว อาจจะทำให้น้ำหนักของเราลดลงได้เร็วในช่วงแรก แต่พอเราออกกำลังกายต่อเนื่องไปสักพัก สิ่งที่เราจะต้องประสบพบเจอ ก็คือการออกกำลังกาย แล้วน้ำหนักคงที่ไม่ยอมลดลง…

ภาพจาก SheKnows

หากเราเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว ก็อย่าเพิ่งท้อใจกันไป ให้ออกกำลังกายไปอย่างต่อเนื่อง ห้ามหยุด ห้ามท้อ อย่างเด็ดขาด แต่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนในเรื่องของการรับประทานอาหารกันสักนิด เพื่อที่จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับร่างกายของเรา เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ควบคุมอาการควบคู่กับการออกกำลังกาย


การควบคุมอาหาร ไม่ใช่การลดปริมาณอาหารกินให้น้อยลงนะคะ แต่เป็นการเลือกรับประทานอาหาร ทานให้เป็นปกติ 3 มื้อ และออกกำลังกายควบคู่กันไป ถ้าหากมีคนแนะนำว่า ให้งดอาหาร อดอาหาร อย่าไปทำตามเพราะเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างแรง

ภาพจาก fortuna.ge

การงดอาหารหรืออดอาหาร แล้วออกกำลังกาย หลายคนเข้าใจว่าจะยิ่งเผาผลาญพลังงานส่วนที่กักเก็บเอาไว้ได้เร็ว แต่ที่จริงแล้วร่างกายจะมองว่า เรารับพลังงานเข้ามาน้อย และใช้พลังงานมากขึ้น ร่างกายจะยิ่งกักเก็บไขมันเอาไว้มากกว่าเดิม จากที่ควรจะผอม กลายเป็นโยโย่อ้วนขึ้นกว่าเดิมได้

โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต


ที่สำคัญคือหลังจากการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อต้องการสารอาหารเพื่อไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอหรืออาการบาดเจ็บ อาหารประเภทโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต เป็นอาหารที่สามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้เป็นอย่างดี เราควรเลือกรับประทานในช่วงการออกกำลังกายไม่ว่าจะก่อนหรือหลังการออกกำลังค่ะ

ภาพจาก clubdeportivoparaiso.wordpress.com

รับประทานอาหารควบคู่การออกกำลังกาย


ช่วงก่อนออกกำลังกาย ไม่ว่าจะด้วยการเล่นกีฬา หรือใช้งานเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนส เราควรเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายของเรากันก่อน ด้วยการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ก่อนออกกำลังกายสักประมาณ 1 ชั่วโมง

ภาพจาก SHAPE SINGAPORE

ส่วนในช่วงหลังการออกกำลังกาย แน่นอนว่ากล้ามเนื้อของเราเกิดความเสียหาย ต้องการการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออย่างแน่นอน เราควรทานอาหารระเภทโปรตีนที่ย่อยง่ายเช่น ไข่ไก่ เนื้อปลา หรือเนื้อบริเวณอกไก่ พร้อมกกับดื่มนมแบบพร่องมันเนย หลังจากการออกกำลังกายสัก 1 ชั่วโมง

วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ปัญหาสุขภาพหน้าฝน กับการใช้เครื่องออกกำลังกายในบ้าน

เข้าหน้าฝน เรียกได้ว่าฝนตกแทบจะทั้งวัน น้ำก็ท่วม รถก็ติด แถมมาหงุดหงิดเพราะออกไปออกกำลังกายนอกบ้านไมได้ด้วย การเลือกเครื่องออกกำลังกายในบ้าน จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การออกกำลังกายในหน้าฝนมากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของปัญหาทางด้านสุขภาพในช่วงหน้าฝน

ภาพจาก Anytime Fitness Blog

ซึ่งถ้าหากใครยังมีความดื้อดึง ออกไปออกกำลังกายกลางแจ้งในวันที่อากาศเปลี่ยนแปลง อาจจะเกิดอาการป่วยหนัก มากกว่าการที่ไม่ได้ออกกำลังกายด้วยซ้ำ ซึ่งอาการป่วยในหน้าฝน ไม่ได้มีเพียงเป็นไข้หวัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะ !

ปัญหาสุขภาพหากออกกำลังกายกลางแจ้งในฤดูฝน


การออกกำลังกายกลางแจ้ง อากาศเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกพรำๆ อาการป่วยยอดฮิตคงจะไม่พ้นอาการหวัดคัดจมูก อย่างแน่นอน

ภาพจาก womenshealthmag.com

ช่วงหน้าฝนต้องบอกเลยว่ามีน้ำขังมากกว่าปกติ เป็นสวรรค์ของเหล่ายุงเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุงลายที่เป็นพาหนะของไข้เลือดออก การที่เราออกกำลังกายนอกบ้าน มีโอกาศที่จะโดนยุงกัดมากกว่าอย่างแน่นอน

เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในเรื่องของผิวหนังจากรังสี UV หลายคนคิดว่าหหน้าฝน อากาศข้างนอกก็ไม่มีแดด ทำไมถึงมีปัญหาเรื่องผิวคล้ำกันล่ะ ? เพราะอันที่จริงแล้วรังสี UV สามารถทะลุผ่านก้อนเมฆลงมาได้เหมือนกับเวลาแดดจัด ดังนั้นควราครีมกันแดดเพื่อป้องกันเอาไว้จะดีที่สุด


เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในเรื่องของสิวจากสิ่งสกปรก ใครบอกว่าอากาศชื้นแฉะไม่มีฝุ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไรฝุ่นต่างๆอาจจะติดมากับละอองฝนได้ด้วย ยิ่งอากาศชื้นๆ หน้าตาเราก็เหนียวมากกว่าปกติ สิ่งสกปรกฝุ่นละอองเล็กๆก็จะมาเกาะติดอยู่บนใบหน้าของเรามากขึ้นอีกด้วย

ปัญหาจะหมดไป หลีกเลี่ยงอาการเจ็บป่วยได้ง่ายๆ ถ้าหากเราเปลี่ยนจากการออกกำลังกายกลางแจ้ง มาใช้งานเครื่องออกกำลังกายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของตัวเราเองค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เครื่องออกกำลังกาย ไม่แค่ช่วยให้หุ่นดีแต่ยังขับสารพิษในร่างกายอีกด้วย

การใช้งานเครื่องออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยสร้างสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรง การใช้งานเครื่องออกกำลังกาย กะชับสัดส่วนที่เราสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญคือไม่เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเหมือนกันการใช้ยาลดความอ้วนประเภทต่างๆ ทำให้เรามีรูปร่างสวย และช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิธิภาพมากที่สุด

ภาพจาก Exercise Right

นอกจากนี้ การใช้งานเครื่องออกกำลังกาย ยังมีส่วนช่วยในการขับสารพิษในร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของเราให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า ยิ่งออกกำลังกาย ก็จะยิ่งมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

สารพิษสะสมในร่างกาย


ต้องยอมรับเลยว่าสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน เต็มไปด้วยสารพิษที่มีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเราต้องเจอกันอยู่ตลอดเวลา ทั้งทางอากาศ และสารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร ทำให้ร่างกายของเรากลายเป็นแหล่งสะสมสารพิษแบบไม่ทันรู้ตัว

ภาพจาก Spidertip.com

โดยสารพิษจำนวนไม่น้อยเลยที่ถูกกักเก็บเอาไว้ในส่วนที่เป็นเซลล์ไขมันส่วนเกินของร่างกาย ดังนั้นถ้าหากเรายิ่งมีไขมันส่วนเกินในร่างกายมาก ก็มีความเป็นไปได้ว่าสารพิษในร่างกายมีปริมาณมากตามไปด้วย ซึ่งสารพิษเหล่านี้จะสะสมอยู่อย่างนั้น จนกว่าไขมันจะสลายไป

ออกกำลังกายขับสารพิษ


ดังนั้นการออกกำลังกาย สามารถช่วยทำให้ร่างกายขับสารพิษ ที่สะสมอยู่ภายในร่างกายของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะการออกกำลังกายเป็นการเผาผลาญไขมันและพลังงานส่วนเกินในร่างกายของเราได้ดีมากที่สุด

ภาพจาก timeturk.com

ส่งผลให้เซลล์เสียหายน้อยลง สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ ทำให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าวัย ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่า คนจำนวนมากประจักษ์แก่สายตา ว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะดูดีและดูเป็นหนุ่มเป็นสาวมากกว่าคนในวัยเดียวกันมาก ตรงข้ามกับคนที่ปล่อยตัวที่จะดูชรามากกว่าอายุที่เป็นจริง !

วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วอร์มอัพก่อนใช้งานเครื่องออกกำลังกาย Fitness

ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอุปกรณ์ Fitness หรือว่าเป็นการออกกำลังกายแบบทั่วไป เรื่องของการวอร์มอัพร่างกายให้พร้อมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อยืดหยุ่นและเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อ เพื่อลดการเกิดอาการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ

ภาพจาก e-magic.hu

แต่การวอร์มอัพร่างกาย ก็มีหลากหลายรูปแบบ สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ก็อาจจะเกิดความสับสนว่า เราจะต้องวอร์มอัพร่างกายแบบไหนถึงจะถูก แบบไหนถึงจะเหมาะสม และเกิดความกังวลว่าหากเราวอร์มอัพร่างกายผิดท่า จะส่งผลเสียกับร่างกายของเราหรือไม่ ?

ทำความเข้าใจเรื่องการวอร์มอัพ


อันที่จริงต้องบอกเลยว่าการวอร์มอัพร่างกาย ไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว หรือเฉพาะเจาะจง เพราะจุดประสงค์ของการวอร์มอัพร่างกาย คือการทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ขยับและเคลื่อนไหวเพื่อความยืดหยุ่น และเพิ่มอุณภูมิร่างกายอย่างช้าๆ ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย

ภาพจาก druskininkuvsb.lt

หลักการสำคัญของการวอร์มอัพ


ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักการที่ตายตัวสำหรับการวอร์มอัพร่างกาย แต่สิ่งที่เราจะต้องทำคือ พยายามให้ร่างกายทุกส่วนได้เคลื่อยไหวขยับตัว แต่ก็ไม่ต้องหักโหมมากจนเกินไป ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เข้ามาร่วมในการวอร์มอัพ เพียงแค่ขยับร่างกายทุกสัดส่วน เหมือนกับเป็นสัญญาณว่า เอาล่ะนะ ฉันจะเริ่มออกกำลังกายแล้ว เตรียมตัวให้ดี !

ภาพจาก Top 10 Home Remedies

วอร์มอัพ และ คูลดาวน์


เมื่อเราวอร์มอัพร่างกายเรียบร้อยแล้ว ให้เริ่มต้นออกกำลังกาย โดยระยะเวลาในการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุดคือประมาณ 45 – 60 นาที เมื่อครบกำหนดเวลา ร่างกายกำลังเหนื่อยหอบ เลือดสูบฉีดเต็มที่ ไม่ควรหยุดออกกำลังกายเลยแบบกระทันหัน เพราะอาจจะทำให้เรารู้สึกหน้ามืดหรือมีอาการวิงเวียนได้

ภาพจาก YouTube

ก่อนที่เราจะหยุดออกกำลังกาย แนะนำให้ทำการคูลดาวน์ร่างกายกันเสียก่อน เพื่อเป็นการลดอุณภูมิร่างกายอย่างช้าๆ ปรับร่างกายให้กลับเข้าสู่สภาวะปรกติ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยหลังออกกำลังกายได้ดีเลยทีเดียว