นาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit Versa ดีไซน์ทัยสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

นาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit รุ่น Versa เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติครบสูตรสำหรับคนรักสุขภาพและการออกกำลังกาย โดยนาฬิกาอัจฉริยะ Fitbit รุ่น Versa เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีดีไซน์สวยทันสมัย เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ สามารถสวมใส่ออกกำลังหายและในชีวิตประจำวัน เหมาะสมกับทุกสถานที่และทุกสถานการณ์

ความโดดเด่นของนาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit Versa นอกจากเรื่องของความสวยงามแล้ว ยังมีเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องที่เบามาก และดีไซน์หน้าปัดนาฬิกาเป็นรูปแบบใหม่ ที่สามารถตรวจเช็คสถานะตัวเลขต่างๆของร่างกายได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งเรื่องของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้อย่างยาวนานถึง 4 วัน

ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของราคาที่ไม่สูงมากนัก นาฬิกา Fitbit รุ่นทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 10,000 ต้นๆ แต่สำหรับรุ่น Fitbit Versa ราคาจะอยู่ที่ 8,490 บาท สำหรับสีดำ สีเทา หรือสีพีช และ 9,490 บาท สำหรับรุ่นสเปเชี่ยลเอดิชั่น เรียกได้ว่าครบเครื่องทุกฟีเจอร์แถมราคาถูกสบายกระเป๋า จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Fitbit จึงกลายเป็นนาฬิกาออกกำลังกายยอดฮิตในปี 2019!

สมาร์ทวอทช์ Fitbit Versa ครบทุกฟังก์ชัน

นาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit Versa สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามสภาวะการนอนหลับได้แบบอัตโนมัติตลอดคืน อีกทั้งยังสามารถออกแบบรูปแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกายของคุณ แนะนำเทคนิคเคล็ดลับในการออกกำลังกายผ่านนาฬิกา พร้อมโหมดออกกำลังกายเฉพาะมากกว่า 15 โหมด

Fitbit Versa และการเชื่อมต่ออุปกรณ์

สมาร์ทวอทช์ Fitbit สามารถเชื่อมต่อกับมือถือสมาร์โฟนได้ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสถิติการออกกำลังกาย สรุปเป็นรายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน ระบบการแจ้งเตือนที่มีความรวดเร็ว ทั้งข้อความ การโทร หรือแจ้งเตือนจากโซเชียลมีเดียร์

โดยที่คุณสามารถตอบกลับได้อย่างรวดเร็วผ่านนาฬิกา Fitbit Versa และยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android, iOS และ Windows เรียกได้ว่าสามารถใช้ได้กับมือถือแทบจะทุกรุ่นเลยก็ว่าได้

Fitbit Versa กับการฟังเพลงผ่าน Deezer

นาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit Versa ยังเป็นเหมือนกับคลังเพลงเคลื่อนที่แบบไม่ต้องพึ่งโทรศัพท์มือถือ เพราะสมาร์ทวอทช์ Fitbit สามารถรองรับคอลเลคชั่นเพลงส่วนตัวได้มากกว่า 300 เพลง หรือลิสเพลงจากฟีเจอร์ Flow บน Deezer

Deezer เป็นโปรแกรมที่จดจำเพลงที่คุณชื่นชอบ และแนะนำเพลงล่าสุด คัดสรรสำหรับคุณโดยเฉพาะ เล่นเพลงอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพียงกดปุ่มแล้วเริ่มฟังเพลงโปรดจังหวะถูกใจได้เลยทันที นอกจากนี้ ยังมีระบบการค้นหาเพลงชื่นชอบใหม่และเพลงที่เคยชื่นชอบจากกว่า 53 ล้านเพลง มีให้เลือกฟังจากเพลย์ลิสต์ยอดเยี่ยมหรือสร้างใหม่ด้วยตัวเอง เข้าฟังเพลงเลือกสรรตามแนวเพลงที่คุณต้องการได้อย่างเพลิดเพลิน

จับจ่ายใช้สะดวกผ่าน Fitbit Versa

คุณสามารถชำระเงินได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นผ่านนาฬิกาอัจฉริยะ Fitbit Versa ด้วย Fitbit Pay ในร้านที่มีระบบรองรับ ซึ่งในต่างประเทศสามารถใช้งานได้แล้วมากกว่า 14 ประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยอาจจะต้องรอกันไปก่อน

โครงการ Fitbit Labs

เป็นโครงการงานพัฒนาและวิจัย ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น ระบบการจัดการตารางดูแลลูกน้อย ที่เปิดตัวระบบไปเมื่อปีที่ผ่านมาในชื่อแอปพลิเคชัน New Parent เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการสิ่งต่างๆเกี่ยวกับลูกน้อยได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ผ้าอ้อม และการหลับนอน รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ ผ่านทางสมาร์ทวอทช์ Fitbit เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น

นาฬิกาอัจฉริยะ Fitbit Versa ดูแลสุขภาพคุณผู้หญิง

นาฬิกาอัจฉริยะ Fitbit Versa มาพร้อมกับฟีเจอร์สุดทันสมัยสำหรับดูแลสุขภาพร่ายกายคุณผู้หญิง (Female health tracking) ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้หญิงเข้าใจเกี่ยวกับรอบเดือนและความเกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกาย เพื่อเราจะได้ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา ร่างกายกำลังอยู่ในช่วงใด และประมวลแนวโน้มและผลกระทบต่างๆ จากกิจกรรมของเรา การหลับนอน การออกกำลังกาย น้ำหนักตัว และโภชนาการ

อ่านมาจนถึงจุดนี้แล้ว เชื่อว่ามีหลายคนเลยที่เริ่มอยากจะได้นาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit Versa มาใช้งาน คุณสามารถเข้ามาเลือกชมสมาร์ทวอทช์ Fitbit หลากหลายรุ่นและดีไซด์ผ่านทางเว็บไซด์ homepro.co.th พร้อมรับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นลดราคาอีกมากมาย คลิ๊กเลย! > นาฬิกาออกกำลังกาย Fitbit

เครื่องออกกำลังกายแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด?

เครื่องออกกำลังกาย เป็นอุปกรณ์การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ที่มีให้เลือกอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งเครื่องออกกำลังกายแต่ละประเภท ก็มีการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยการเลือกใช้งานนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะการออกกำลังกายของแต่ละคน…

ประโยชน์ของเครื่องออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเดินทาง เพราะหากเรามีเครื่องออกกำลังกายไว้ใช้งานที่บ้าน หลังเลิกงานเราก็ไม่ต้องเดินทางไปที่อื่นไกล เพราะเมื่อเรากลับถึงบ้านก็เริ่มออกกำลังกายได้เลยทันที ไม่ต้องไปฟิตเนสให้เสียเวลา

แต่การเลือกเครื่องออกกำลังกาย จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ดังนั้นหากใครที่กำลังคิดตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกายไว้ใช้งานที่บ้าน แต่ยังเลือกไม่ได้สักทีว่า แบบไหนถึงจะเหมาะสมกับตัวเรา วันนี้มีเคล็ดลับดีดีในการเลือกเครื่องออกกำลังกายมาฝากกัน !

จุดประสงค์ของการใช้เครื่องออกกำลังกาย

ก่อนอื่น เราจะต้องตอบคำถามตัวเองกันก่อนว่า เราจะออกกำลังกายเพื่ออะไร เพื่อลดน้ำหนัก เพื่อสร้างกล้ามเนื้อกระชับสัดส่วน หรือออกเพื่อสุขภาพเท่านั้น เพราะจุดประสงค์ของการออกกำลังกาย จะสามารถเป็นตัวกำหนดเครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสมกับเราได้...

ออกกำลังเพื่อลดน้ำหนัก

กรณีที่คุณอยากจะออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก เครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ เครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ที่เน้นการกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ระบบเผาผลาญ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ จะเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นอยู่ที่ประมาณ 50-75% หรือมากกว่า ของอัตราการเต้นสูงสุด เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน การเต้น การตีแบดมินตัน เป็นต้น

เครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่าง ลู่วิ่งไฟฟ้า ลู่เดินวงรี และจักรยานฟิตเนส ได้รับความนิยมอย่างมากในการเลือกนำมาใช้เป็นเครื่องออกกำลังกายหลักในการเผาผลาญพลังงานในร่างกายที่ดีที่สุด โดยลู่วิ่งไฟฟ้าจัดว่าเป็นพระเอกของเครื่องคาร์ดิโอที่คนใช้งานมากที่สุดอีกด้วย และแน่นอนว่าหากต้องการการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าให้เห็นผล จะต้องเรียนรู้เคล็ดลับเพื่อที่จะใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

อ่านเพิ่มเติมที่ > ใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างไรถึงจะ อึด ถึก และทน

ซึ่งหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าหรือข้อขา แนะนำให้เลือกลู่เดินวงรี หรือจักรยานฟิตเนส มาใช้งานจะเหมาะมากกว่าลู่วิ่งไฟฟ้า เพราะลู่เดินวงรี หรือจักรยานฟิตเนส จัดเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ไร้แรงกระแทก ดังนั้นการใช้งานจึงช่วยเซฟในเรื่องของปัญหาข้อเข่าและข้อขาได้เป็นอย่างดี

อ่านเพิ่มเติมที่ > ลู่เดินวงรี เครื่องออกกำลังกายคู่ใจ เหมาะสำหรับทุกวัย มีไว้ใช้คู่บ้านคุณ!

ออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ

การออกกำลังกายเพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อ หรือที่เราเรียกกันว่า เวทเทรนนิ่ง เป็นการบริหารกล้ามเนื้อเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและกระชับกล้ามเนื้อในร่างกายทุกส่วน โดยดัมเบล เป็นอุปกรณ์เวทเทรนนิ่งพื้นฐานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้งมีราคาที่ไม่แพง จึงเหมาะมากที่จะจัดหาติดบ้านเอาไว้

แต่ดัมเบลก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ น้ำหนักมีทั้งหนักและเบา ดังนั้นการเลือกดัมเบลที่เหมาะสมกับร่างกายของเราจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากเราเลือกดัมเบลที่เบาเกินไป ยกเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผล แต่หากเราเลือกดัมเบลที่มีน้ำหนักมาก ก็อาจจะเป็นอัตรายต่อร่างกายเราได้ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าดัมเบลกันก่อนตัดสินใจเลือกมาใช้งานกันเถอะ !

ประเภทของดัมเบล Dumbbell

ดัมเบลปัจจุบันก็มีให้เลือกอยู่หลักๆ 3 รูปแบบด้วยกัน โดยส่วนใหญ่แล้วสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น ก็มักจะเลือกเป็นดัมเบลแบบเหล็กหล่อ ที่มีน้ำหนักหลายขนาด และสามารถหยิบใช้งานได้เลยทันที ดัมเบลแบบเหล็กหล่อจะมีราคาที่ไม่แพง ดังนั้นจึงเหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้นเลือกซื้อไว้ใช้งานที่บ้าน

ดัมเบลอีกประเภทก็จะเป็นแบบที่สามารถปรับน้ำหนักได้ คือเราจะต้องทำการถอดหรือเพิ่มน้ำหนักของดัมเบลก่อนเริ่มต้นใช้งาน อยากจะเพิ่มหรือจะลดเมื่อไหร่ก็ได้ ปรับตามความเหมาะสม เป็นดัมเบลที่ค่อนข้างสะดวกและสามารถใช้งานได้นาน แต่เรื่องของราคาอาจจะสูงไปสักหน่อย แต่หากใครที่คิดว่า จะเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างจริงจังและใช้งานอย่างเป็นระจำ ก็ถือว่าคุ้มราคามากเลยทีเดียว

ดัมเบลอีกประเภทคือ ดับเบลแบบคาน จะเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเป็นประจำ ดับเบลแบบคาน จะมาพร้อมกับก้านและห่วงน้ำหนักแยกออกจากกัน สามารถเปลี่ยนน้ำหนักให้เหมาะสมกับตนเองได้ ซึ่งจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อหรือความแข็งแรงของส่วนต่างๆได้หลากหลายและเหมาะสมกับท่าการยกน้ำหนักอีกด้วย

เลือกซื้อดัมเบลได้ที่ > ดัมเบลราคาถูก Homepro

อันที่จริงอุปกรณ์ออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากดัมเบลแล้วก็มีอีกหลากหลายประเภทเลยทีเดียว ซึ่งหากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ฟิตเนสคุณภาพดีมาใช้งานกันอยู่ล่ะก็ ลองแวะเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ > อุปกรณ์ยกน้ำหนักฟรีเวท

ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

หากคุณเน้นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเบาๆ อย่างเช่น โยคะ พีลาทิส หรือแอโรบิคแบบเบาๆ แนะนำให้เลือกอุปกรณ์เป็นพวก ลูกบอลโยคะ เสื่อโยคะ ล้อบริหารหน้าท้อง หรือสเตปเปอร์ไว้ใช้งานที่บ้าน ออกกำลังกายแบบเบาๆไม่หนักหน่วง ช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่น และช่วยคลายความเครียดได้ดี

เลือกชมสินค้าอุปกรณ์โยคะได้ที่ > โยคะ และ พีลาทิส

อ่านมาจนถึงจุดนี้แล้ว ทุกคนก็พอที่จะมองเห็นแนวทางในการเลือกเครื่องออกกำลังกายให้เหมาะสมเรามากที่สุดกันแล้ว และสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกายมาใช้งานที่บ้าน สามารถแวะเข้ามาเลือกชมสินค้าอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายแบบครบวงจรกันได้ที่ homepro.co.th

เครื่องออกกำลังกายในบ้าน เลี่ยงปัญหาฝุ่นละออง PM2.5

เครื่องออกกำลังกายในบ้าน อาจจะดูเป็นอะไรที่น่าเบื่อเกินไปสำหรับหลายคน ด้วยบรรบยากาศภายในบ้านแบบเดิมๆ ออกกำลังกายรูปแบเดิม ทำให้เราเกิดความเบื่อหน่ายและไม่อยากออกกำลังกายได้ ซึ่งหากเทียบกับการที่ไปออกกำลังกายนอกบ้านหรือตามฟิตเนส ฟังดูน่าสนใจมากกว่าแน่นอน

แต่ว่าการออกกำลังกายนอกบ้าน หรือเดินทางไปฟิตเนสในช่วงที่สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง PM2.5 เป็นสิ่งที่ทำให้สุขภาพร่างกายของเราแย่ลงมากกว่า ดังนั้นการมีเครื่องออกกำลังกายไว้ใช้งานภายในบ้าน จึงเป็นอีกทางเลือกที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหับฝุ่นละอองดังกล่าวได้ดีที่สุด

เครื่องออกกำลังกายในบ้าน

หากพูดถึงเครื่องออกกำลังกายในบ้าน ก็มีหลากหลายให้เลือกใช้งาน หากที่บ้านมีพื้นที่มากหน่อย ก็เลือกพวกเครื่องออกกำลังกายที่มีขนาดใหญ่ไว้ใช้งาน เช่น ลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นต้น แต่หากที่บ้านไม่ค่อยมีพื้นที่ ก็ลองเลือกพวกลู่เดินวงรี หรือจักรยานฟิตเนส ไว้ใช้งานที่บ้านก็สะดวกดี

แต่การจะเลือกเครื่องออกกำลังกายภายในบ้าน นอกจากพิจารณาเรื่องของขนาดและพื้นแล้ว ยังมีเรื่องอะไรอีกที่ต้องนำมาคิดประกอบเพิ่มเติม เพื่อตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกายไว้ใช้ภายในบ้านให้เหมาะสม และคุ้มค่ามากที่สุด

เป้าหมายการออกกำลังกายคืออะไร?

สิ่งที่ต้องคิดเพิ่มก่อนตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกายมาใช้งานที่บ้าน คือเรื่องของเป้าหมายในการออกกำลังกาย ว่าเราออกกำลังกายเพื่ออะไร เพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อการลดน้ำหนัก หรือออกกำลังกายเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ฟิตหุ่นให้กระชับ

ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

หากคุณเป็นคนที่ออกกำลังกายแบบเบาๆ เพื่อสุขภาพที่ดีเฉยๆ ไม่ต้องการลดน้ำหนักหรือฟิตร่างกาย แนะนำให้เลือกเครื่องออกกำลังกายประเภทสเต็ปเปอร์ไว้ใช้งาน อาจจะเล่นโยคะ หรือเล่นพวกเครื่องบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ยกเวทเบาๆ ก็เพลินดีค่ะ

ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

หากคุณเป็นคนที่ออกกำลังกาย เพื่อกระชับกล้ามเนื้อ เน้นเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในร่างกายให้มีความแข็งแกร่ง แนะนำให้เลือกอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่ง ยกน้ำหนัก ดัมเบล หรือพวกโฮมยิมที่รวมอุปกรณ์หลายๆอย่างเอาไว้ด้วยัน

ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก

หากคุณเป็นคนที่ออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนัก หรือลดน้ำหนัก แนะนำให้เลือกเครื่องออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอมาใช้งานภายในบ้าน เช่น ลู่วิ่งไฟฟ้า ลู่เดินวงรี หรือจักรยานฟิตเนส เป็นต้น โดยการใช้งานเครื่องออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักที่ดี ควรออกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน และวันละประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง

เมื่อเราเลือกเครื่องออกกำลังกายในบ้านได้อย่างเหมาะสมแล้ว เราก็สามารถออกกำลังกายได้ถึงแม้ว่าอากาศภายนอกจะเต็มไปด้วยฝุ่นละอองที่อันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งหากคุณต้องการให้อากาศภายในบ้านมีความบริสุทธิ์มากว่าเดิม และมั่นใจว่าอากาศที่หายใจเข้าไปขณะออกกำลังกายในบ้านนั้นปราศจากฝุ่นละออง PM2.5 แนะนำให้เลือกเครื่องฟอกอากาศอีกสักเครื่อง มาเปิดใช้งานคู่กับการออกกำลังกายไปด้วย รับรองได้ว่าสุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงและห่างไกลจากฝุ่นละอองที่จะเข้ามาทำลายสุขภาพของเราแน่นอน

บทความแนะนำ

• เครื่องออกกำลังกายในบ้านเลือกแบบไหนดีนะ ?
• การเลือกเครื่องออกกำลังกายมาใช้ในบ้าน

สมาร์ทวอทช์ Garmin เช็คสภาพอากาศได้ด้วยนะขอบอก !

สมาร์ทวอทช์ Garmin เป็นนาฬิกาอัจฉริยะ ที่สามารถตรวจจับกิจกรรมในแต่ละวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ การหลับนอน ผลการออกกำลังกาย และนำมาแสดงผลผ่านหน้าจอนาฬิกา และสามารถเชื่อมต่อกับมือถือสมาร์ทโฟน เพื่อดูข้อมูลรายละเอียด หรือตั้งค่าการทำงานได้มากยิ่งขึ้น

และเนื่องจากสภาวะฝุ่นละออง PM2.5 ที่เราประสบพบเจอกันอยู่ สมาร์ทวอทช์ Garmin จึงได้ทำการเพิ่มฟีเจอร์ในการดูสภาพอากาศเพิ่มเข้าไปด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบสภาพอากาศรอบตัวได้เลยทันทีผ่านนาฬิกาของเราเอง โดยฟีเจอร์ดังล่าวมีชื่อว่า “Airly” ที่คุณสามารถหาดาวน์โหลดได้จาก Connect IQ Store

ขั้นตอนในการติดตั้งและใช้งาน

ขั้นตอนแรก ให้ทำการเชื่อมต่อเข้ากับ Connect IQ Store จากมือถือของคุณ และอย่าลืมเชื่อมต่อ Bluetooth โทรศัพท์มือถือเข้ากับนาฬิกาด้วย

Connect IQ Store จะอยู่ตรงเมนูที่เป็นสัญลักษณ์ 3 ขีดตามภาพ ระบบปฏิบัติการ iOS จะอยู่บริเวณมุมขวาล่าง และระบบ Android จะอยู่ที่บริเวณมุมขวาบน โดยการเข้าใช้งาน จะต้องทำการล็อคอินเข้าสู่ระบบอีกครั้ง (User และ Password เดียวกับ Garmin Connect)

ขั้นตอนที่สอง ให้ทำการเซิทหาฟีเจอร์ “Airly” และกดเลือกฟีเจอร์ “Airly – Air Quality Manager” เพื่อทำการดาวน์โหลดฟีเจอร์มาติดตั้งใช้งาน โดยขั้นตอนในการทำ ระบบจะให้เราทำการกด Accept Term and Condition เราสามารถกดยอมรับไปได้เลยตามปกติ

ขั้นตอนที่สาม หลังจากติดตั้ง Airly เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการซิงค์มือถือกับสมาร์ทวอทช์ใหม่อีกครั้งที่หน้าจอของแอพ Garmin Connect เมื่อกดแล้วให้เรารอจนกว่าระบบจะทำการซิงค์เสร็จเรียบร้อย ลักษณะจะเป็นวงกลมสีเขียวหมุนจนเต็มวง

ขั้นตอนที่สี่ หลังจากทำการซิงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟีเจอร์ Airly จะเข้ามาอยู่ในนาฬิกา โดยการใช้งานจะต้องเชื่อมต่อ Bluetooth กับโทรศัพท์มือถือเพื่อดึงข้อมูลแบบ Real-Time และนำมาแสดงผลผ่านหน้าจอนาฬิกา โดยข้อมูลที่นำมาแสดงผลเกี่ยวกับสภาพอากาศจะมีรายละเอียดเช่น…

• ค่า Air Quality Index (AQI)
• ค่า PM2.5 และ PM10
• อุณภูมิปัจจุบันและความชื้นสัมพัทธ์

สำหรับใครที่ทำตามขั้นตอนดังกล่าวแล้วฟีเจอร์ Airly ไม่แสดงอัตโนมัติ ให้ทำการเข้าไปที่เมนูการตั้งค่า > Widget > Add Widget > Airly ให้ทำการกดเลือกตำแหน่งการวาง Widget Airly จบขั้นตอนทั้งหมดนี้สมาร์ทวอทช์ของคุณก็จะพร้อมที่จะตรวจวัดค่าสภาพอากาศแล้วล่ะค่ะ

สมาร์ทวอทช์ Garmin รุ่นไหนรองรับบ้าง

สมาร์ทวอทช์ Garmin ที่รองรับระบบ Widget Airly จะเป็นทุกรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Connect IQTM ได้ ซึ่งสมาร์ทวอทช์รุ่นยอดนิยมที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆได้เลือกนำไปใช้งานกันก็จะมี …

สมาร์ทวอทช์ Garmin vivoactive 3 Music

สมาร์ทวอทช์ Garmin vivoactive 3 Music เป็นสมาร์ตวอชสำหรับชีวิตสุดแอกทีฟ ที่มาพร้อมกับคลังข้อมูลเพลงที่สามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกการออกกำลังกาย อ่านเพิ่มเติมที่ > Garmin vivoactive 3 Music

สมาร์ทวอทช์ Garmin Forerunner 235

สมาร์ทวอทช์ GARMIN Forerunner 235 หรือ สมาร์ทวอทซ์ สำหรับติดตามกิจกรรมของ Garmin ที่ถูกพัฒนามาเพื่อเป็นเครื่องมือติดตามสุขภาพของตัวผู้ใช้ในทุกกิจกรรมที่ได้ทำในแต่ละวัน พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลให้ผู้ใช้ทราบถึงสุขภาพของตนเองอย่างละเอียด อ่านเพิ่มเติมที่ > GARMIN Forerunner 235

สมาร์ทวอทช์ Garmin Forerunner 645

สมาร์ทวอทช์ Garmin Forerunner 645 ลงตัวทุกไลฟ์สไตล์ นาฬิการะดับ High-End ติดตามทุกกิจกรรมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมหน่วยความจำ ที่สามารถบรรจุเพลงได้มากถึง 500 เพลง สามารถดาวน์โหลดเพลงได้ถึง 500 ง่าย ๆ ลงบนนาฬิกาข้อมือของคุณ และเชื่อมต่อกับหูฟัง Bluetooth® (ขายแยกต่างหาก) เพื่อการฟังเพลงแบบไร้โทรศัพท์ อ่านเพิ่มเติมที่ > Garmin Forerunner 645

หากใครกำลังมองหาสมาร์ทวอทช์สำหรับสวมใส่ออกกำลังกาย หรือตรวจวัดค่ากิจกรรมร่างกายในแต่ละวัน แนะนำให้เลือกเป็นสมาร์ทวอทช์ Garmin ที่เป็นผู้นำทางด้านอุปกรณ์ Gadget สำหรับการออกกำลังกาย สามารถดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ Homepro.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.garminbygis.com

ลู่เดินวงรี เครื่องออกกำลังกายคู่ใจ เหมาะสำหรับทุกวัย มีไว้ใช้คู่บ้านคุณ!

ลู่เดินวงรี เป็นอีกเครื่องออกกำลังกาย ที่หลายๆคนชื่นชอบมากที่สุด เพราะเป็นเครื่องออกกำลังกายที่สามารถกระชับสัดส่วนได้ทั่วทั้งร่างกาย ตั้งแต่ช่วงแขน อก ไหล่ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ไปจนถึงน่อง นอกจากนี้ลู่เดินวงรียังเป็นเครื่องออกกำลังกายประเภทไร้แรงกระแทก จึงเหมาะที่จะใช้งานทุกเพศทุกวัย ใครที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่าข้อขา ก็สามารถออกกำลังกายด้วย “ลู่เดินวงรี” เครื่องนี้ได้อย่างสบายใจ

ลู่เดินวงรี กับ ลู่วิ่งไฟฟ้า แบบไหนดีกว่ากัน?

อันที่จริงจะบอกว่าเครื่องออกกำลังกายเครื่องไหนดีกว่ากัน ก็อาจจะฟันธงไม่ได้ชัดเจน เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการออกกำลังกาย และความชื่นชอบของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะชอบวิ่งแบบหนักๆ เบิร์นเผาผลาญพลังงานอย่างรวดเร็ว ก็จะบอกว่า ลู่วิ่งไฟฟ้า สิดีที่สุด

แต่หากใครที่ไม่ชอบการออกกำลังกายแบบที่ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยจนเกินไป… ซึ่งอันนี้ต้องบอกตรงๆว่าตัวผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะมันทำให้รู้สึกเหนื่อยง่ายและท้อแท้ใจจนไม่อยากออกกำลังต่อ เลยชอบออกกำลังกายด้วยลู่เดินวงรีมากกว่า เพราะมันจะเน้นการออกกำลังกายแบบเบาๆชิวๆ ไม่เหนื่อยมาก แต่สามารถออกได้เพลินๆ เผาผลาญพลังงานไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องหักโหมมากเกินไป

มีใครบ้างที่เหมาะกับลู่เดินวงรี?

อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าลู่เดินวงรีเป็นเครื่องออกกำลังกายแบบไร้แรงกระแทก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวัยเด็กโต ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ก็สามารถเลือกใช้งานลู่เดินวงรีเป็นเครื่องออกกำลังกายหลัก เพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ

ลู่เดินวงรีแบบ 2 in 1

แต่บางทีการที่เราออกกำลังกายแบบเดิมๆทุกวัน เราก็แอบมีความเบื่อกันบ้างแหละ แต่ลู่เดินวงรีในบางรุ่น สามารถใช้งานเป็นจักรยานฟิตเนสได้ด้วย เรียกได้ว่าลู่เดินวงรีเครื่องเดียว สามารถเลือกออกกำลังกายได้ถึง 2 รูปแบบ สลับสับเปลี่ยนการออกกำลังกายในแต่ละวัน ทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อ และอยากที่จะการออกกำลังกายในทุกๆวัน

เคล็ดลับการใช้ลู่เดินวงรี

การใช้งานลู่เดินวงรี ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อน เพียงแค่เราขึ้นยืนบนแท่นวางเท้าทั้งสองข้างให้มั่นคง มือจับกับแฮนทั้งสองข้างให้แน่น และออกแรงดันแฮน และเท้าถีบไปด้านหน้า สลับไปมาอย่างเป็นจังหวะ ทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนถึงระดับ 150 – 160 SPM (อัตราที่ร่างกายของเราจะสามารถเปาปลาญพลังงานได้ดีมากที่สุด) และคงไว้ที่ระดับนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการเผาผลาญพลังงานให้ได้เต็มประสิทธิภาพ

ลู่เดินวงรีรุ่นแนะนำ

ลู่เดินวงรี 360 องศาฟิตเนส K8.7HA. ระบบ Magnetic Resistance ลดแรงกระแทก เครื่องเดินวงรีพร้อมนั่งปั่นออกกำลังกาย ขนาดน้ำหนักจาน 8KG. ที่วางเท้ากันลื่น ขนาดใหญ่ ระยะก้าว 14 นิ้ว เบาะนั่ง หนานุ่ม ปรับระดับได้ (เข้า-ออก 4 ระดับ, สูง-ต่ำ 6 ระดับ)

ลู่เดินวงรี ELLIPTICAL BIKE EX-601E บริหารทุกส่วนของร่างกาย ในเครื่องเดียวด้วย เครื่องคาดิโอ ELLIPTICAL BIKE ปั่นด้วยระบบแม่เหล็ก บริหารร่างกายได้ทุกส่วน โดยไม่ทำให้เกิดแรงกระแทกตามข้อของร่างกาย ลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย

หากใครที่กำลังมองหาลู่เดินวงรี หรือเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ ไว้สำหรับใช้งานที่บ้าน ลองแวะเข้ามาเลือกชมสินค้าเครื่องออกกำลังกายจากหลายยี่ห้อดังได้ที่ www.homepro.co.th

บทความแนะนำ

• คุณสมบัติลู่เดินวงรี กระชับสัดส่วนทั่วร่างกายแบบไร้แรงกระแทก
• ลู่เดินวงรี เครื่องออกกำลังกายไร้แรงกระแทกที่คุณต้องการ

หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 “ไม่มี” ใช้หน้ากากอนามัยแทนได้ไหม ?

จากที่อธิบายยคุณสมบัติหน้ากากกันฝุ่น PM2.5 ไปในบทความก่อนหน้า > หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 สวมใส่อย่างปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพคนในครอบครัว ไปแล้ว เราจะเห็นว่า หน้ากากกันฝุ่นที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กโดยเฉพาะนั้น มีความแตกต่างกับหน้ากากอนามัยทั่วไป

แต่หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 มันหายากเหลือเกิน ที่นู้นก็ไม่มี ที่นี่ก็ขายหมดไปแล้ว … ตอนนี้ก็จะเหลือแต่หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาไว้ใช้งาน แล้วแบบนี้จะสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ไหมนะ?

หน้ากากกันฝุ่นแบบประยุกต์ใช้

ถ้าหากเราหาซื้อหนากากกันฝุ่น N95 ไม่ได้ … ก็อย่าเพิ่งท้อใจกันไป เพราะเราก็มาประยุกต์ใช้ของใกล้ตัวเพื่อแก้ขัดกันก่อน ด้วยการซ้อนกระดาษทิชชู่ทับลงไปอีก 1-2 แผ่น หรือเย็บติดหน้ากากอนามุยเป็น 2 ชั้นและสอดกระดาษทิชชู่เอาไว้ตรงกลาง

วิธีที่แนะนำนี้ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ได้มากถึง 90% แบบหน้ากากกันฝุ่น N95 แต่ก็สามารถป้องกันได้ในระดับนึง ซึ่งมีนักวิชาการออกมาพูดแล้วว่า จะสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ประมาณ 70-80% เลยทีเดียว

หากเป็นไปได้ก็อยากให้หาหน้ากากกันฝุ่น N95 มาใช้กันจะปลอดภัยมากที่สุด แต่ถ้าหาซื้อหน้ากากกันฝุ่นไม่ได้จริงๆ ก็แนะนำให้ใช้วิธีการซ้อนกระดาษทิชชู่แก้ขัดไปก่อนก็ได้ เพราะก็ยังดีกว่าไม่สวมใส่อะไรป้องกันเลย ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพร่างกายของคุณและคนที่คุณรัก ร่วมกันรณรงค์ให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากกันฝุ่นเมื่อออกจากบ้านกันเถอะ !

หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 สวมใส่อย่างปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพคนในครอบครัว

หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 เป็นไอเทมที่ทุกคนต้องมีเอาไว้ใช้งานติดตัว เนื่องจากสภาพอากาศในปัจจุบันเต็มไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็กกระจายไปทั่วบรรยากาศในกรุงเทพมหานคร ณ ตอนนี้ หน้ากากกันฝุ่น PM2.5 จึงเป็นสิ่งที่เราจะต้องมีไว้เพื่อป้องกันสุขภาพของตัวเราเอง

แต่ก่อนที่เราจะมาทำความรู้จักกับหน้ากากกันฝุ่น PM2.5 … เรามาเรียนรู้กันก่อนว่าเจ้าฝุ่น PM2.5 คืออะไร ? แล้วทำไมเราจึงต้องสวมใส่หน้ากากกันฝุ่นเพื่อป้องกัน PM2.5 ?

ฝุ่น PM2.5 คืออะไร?

ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมของเราอีก ดังนั้นฝุ่นขนาดเล็กแบบนี้ จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเราได้ผ่านระบบทางเดินหายใจ ไปจนถึงกระแสเลือดสูบฉีดไปสู่อวัยวะภายในร่างกาย

ซึ่งเจ้าฝุ่นละออง PM2.5 อาจจะเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง หลอดลม และร้ายสุดคือมะเร็ง โดยฝุ่น PM2.5 เกิดจากการเผาไหม้ของรกยนต์ การเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิตไฟฟ้า หรือการรวมตัวของก๊าซบนชั้นบรรยากาศ ฯลฯ

ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ ทำให้ฝุ่นละออง PM2.5 มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ยิ่งหากฝนไม่ตก ลมไม่พัดผ่าน จะยิ่งทำให้ฝุ่น PM2.5 สะสมมากขึ้น จนกลายเป็นมลพิษทางอากาศอย่างที่เรากำลังประสบพบเจอกันอยู่ตอนนี้ ดังนั้นหน้ากากกันฝุ่น จึงเป็นไอเทมที่สามารถช่วยปกป้องคุณจาก PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

หน้ากากอนามัยกรองฝุ่นละอองได้ไหม?

แต่ก็มีหลายคนมาสอบถามกันอยู่เหมือนกันว่า หาซื้อหน้ากากกันฝุ่นไม่ได้ ใช้หน้ากากอนามัยแทนได้รึเปล่า? อันนี้ต้องบอกว่า สามารถใช้ทดแทนได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากเท่า เพราะหน้ากากอนามัยสามารถกรองได้เพียงเชื้อแบคทีเรีย และฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ ไม่สามารถกรองเชื้อไวรัส หรือ ฝุ่น PM2.5 ได้ หากสวมใส่หน้ากากอนามัย ก็มีโอกาศสูงมากที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กแทรกซึมเข้าระบบหายใจ

หน้ากากกันฝุ่นสิแน่นอน!

หากต้องการกรองฝุ่น PM2.5 ได้แบบชัวร์ๆ แนะนำให้ใช้หน้ากากกรองฝุ่นที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาด PM0.1 – 0.3 ได้ถึง 95% ซึ่งนอกจากจะกรองฝุ่น PM2.5 แล้ว ยังสามารถกรองพวกเชื้อโรค เชื้อไวรัสต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยหน้ากากกรองฝุ่นที่สามารถกรอง PM2.5 ได้นั้นมีให้เลือกอยู่ 2 ประเภทได้แก่ หน้ากากกรองฝุ่น N95 และ R95

หน้ากาก N95 และ R95 แตกต่างกันยังไง?

อย่างที่บอกไปว่า หน้ากากกันฝุ่นมีให้เลือกอยู่ 2 แบบคือ N95 และ R95 ซึ่งความแตกต่างกันอยู่ตรงที่ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นละอองที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ โดย…

หน้ากากกันฝุ่น R95

หน้ากากกันฝุ่น R95 เป็นหน้ากากกันฝุ่นที่สามารถกรองฝุ่นละอองได้แบบครบสูตร ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองอนุภาคเล็กหรือใหญ่ มีน้ำมันหรือไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ (เช่น ละอองน้ำมัน แก๊ส สารละเหย เป็นต้น) หน้ากากกันฝุ่นประเภทนี้สามารถกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นิยมใช้ตามโรงงานอุตสาหกรรม หรือการผลิตปิโตรเคมี แต่ด้วยราคาที่สูง จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่

หน้ากากกันฝุ่น N95

หน้ากากกันฝุ่น N95 คือ หน้ากากันฝุ่นที่ออกแบบมาเพื่อกันฝุ่นละอองโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับงานที่คลุกอยู่กับฝุ่นตลอดเวลา สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 - PM10 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หน้ากาก N95 สามารถกรองได้เพียงฝุ่นที่ไม่มีน้ำมันเท่านั้น ราคาจึงถูกมากกว่าหน้ากากกันฝุ่นแบบ R95 ที่สามารถกรองฝุ่นละอองได้มากกว่า โดยราคาของ N95 จะอยู่ที่ 45 บาท ไปจนถึง 145 บาทต่อชิ้น

แบตเตอรี่สมาร์ทวอทช์และอายุการใช้งาน

แบตเตอรี่ของสมาร์ทวอทช์ หากใช้งานต่อเนื่องโดยไม่มีการชาร์จ จะสามารถใช้ได้ประมาณ 7 วันโดยเฉลี่ย แต่ในบางรุ่นจะมีโหมดประหยัดพลังงาน จะสามารถใช้งานได้อย่างนาวนานถึง 30 วันหรือมากกว่านั้น ยิ่งแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ ก็สามารถใช้งานโดยที่ไม่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ยาวนานมากขึ้น

แต่หากแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่แล้ว น้ำหนักของสมาร์ทวอทช์ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในรุ่นที่มีระบบประมวลผลภายในตัวจะมีน้ำหนักมาก เวลาสวมใส่เราจะมีความรู้สึกหนักที่ข้อมือมากขึ้น จึงอาจจะไม่ค่อยเหมาะหากจะนำมาสวมใส่ตลอดทั้งวัน

แต่การที่สมาร์ทวอทข์มีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ก็จะช่วยตัดปัญหาในเรื่องของการชาร์จแบตบ่อยครั้ง บางทีก็ลืมสายชาร์จ หรือต้องซื้อแบตเตอรี่สำรองมาเพิ่มเติม โดยสมาร์ทวอทช์รุ่นที่มีแบตเตอรี่สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน มาจากแบรนด์ Garmin รุ่น Forerunner 645 และ Suunto รุ่น SPARTAN TRAINER WRIST HR

อายุการใช้งานสมาร์ทวอทช์

นอกจากเรื่องความยาวนานของแบตเตอรี่แล้ว เรื่องของความทนทานและอายุการใช้งานก็เป็นอีกอย่างที่เราจะต้องพิจารณา แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะและพติกรรมการใช้งาน ซึ่งนาฬิกาสมาร์ทวอทช์แต่ละรุ่นก็มีการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน

ดังนั้นการที่เราเลือกสมาร์ทวอทช์จากแบรนด์ยี่ห้อดังๆ ก็เป็นอะไรที่อุ่นใจมากกว่า เพราะนอกจากจะได้สมาร์ทวอทข์ที่มีคุณภาพมาใช้งานแล้ว ยังมีบริการหลังการขาย สามารถส่งเคลม ส่งซ่อมแซมที่ศูนย์ในประเทศไทยได้

หรืออาจจะเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์จากผู้จัดจำหน่ายที่มีชื่อเสียง เช่น Homepro Online เลือกช้อปปิ้งสมาร์ทวอทช์ลดราคา และสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น เครื่องออกกำลังกายหลากหลายรุ่นจากแบรนด์ชั้นนำ และโปรโมชั่นลดราคาอื่นๆอีกมากมาย พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านรวดเร็ว รับประกันความพึงพอใจ

เลือกสมาร์ทวอทช์ยี่ห้อไหนดี?

สมาร์ทวอทช์ตามท้องตลาดปัจจุบัน มีอยู่เพียงไม่กี่ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เช่น สมาร์ทวอทช์ยี่ห้อดังจากฝั่งมือถือสมาร์ทโฟนอย่าง Apple, Samsung, Sony, LG ฯลฯ และยี่ห้อดังจากฝั่ง Sport กีฬาเช่น Garmin และ Suunto ซึ่งหากพูดถึงเรื่องของราคาสมาร์ทวอทช์ ก็มีให้เลือกตั้งแต่ราคา 3 พันต้นๆ ไปจนถึง 3 หมื่นปลายๆ

สมาร์ทวอทช์ราคายิ่งแพง พวกฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานก็จะมีหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องของดีไซน์ความสวยงามก็เป็นอีกความโดดเด่นของสมาร์ทวอทช์แต่ละยี่ห้อ เน้นการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ของตัวเอง

หากคุณใช้มือถือไอโฟน และมีงบประมาณเพียงพอ รวมถึงชื่นชอบดีไซน์ที่มีความทันสมัยและสวยงามความหรูหรา แนะนำให้เลือก Apple Watch ที่เป็นแบรนด์ยี่ห้อเดียวกันมาใช้งานจะเหมาะสมมากที่สุด

แต่ถ้าหากคุณเน้นดีไซน์แฟชั่น พร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่มีความหลากหลาย เน้นโปรแกรมออกกำลังกาย รวมถึงความทนทานคงทนในการใช้งาน และที่สำคัญคือราคามีให้เลือกตั้งแต่ไม่เกิน 1 หมื่นบาท ไปจนถึง 3 หมื่นบาท ขอแนะนำสมาร์ทวอชท์ยี่ห้อ Garmin และ Suunto เช่น รุ่น GARMIN Forerunner 235 และ SUUNTO SPARTAN TRAINER WRIST HR BLACK

แบรนด์สมาร์ทวอทช์กับฟังก์ชันการใช้งาน

สมาร์ทวอทช์แต่ละยี่ห้อ ก็มีฟีเจอร์และฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่น การบอกเวลา, แผนที่ GPS, การวัดชีพจร, การวางแผนออกกำลังกาย, ควบคุมเพลง, ประเมินการนอน, ติดตั้งแอพลิเคชั่น, เชื่อมต่อโทรศัพท์ และอีกมากมาย

ดังนั้นการเลือกสมาร์ทวอทช์ยี่ห้อไหนถึงจะเหมาะสมกับเรา ก็ต้องมาเจาะลงดูรายละเอียดเรื่องของฟังก์ชันเทียบกับกิจกรรมการออกกำลังกายของเรา เช่น หากเราเน้นออกกำลังกาย วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ก็ควรเลือกสมาร์ทวอทช์ที่ซัพพอร์ตในเรื่องของกิจกรรมการออกกำลังกาย เช่น การวัดชีพจร การคำนวณแผนการออกกำลังกาย และสามารถกันเหงื่อและกันน้ำได้ลึก 50-100 เมตร เป็นต้น

สมาร์ทวอชท์ เลือกแบบไหน ถูกใจใช่เลย!

สมาร์ทวอทช์ เป็น Gadget นาฬิกาอัจฉริยะที่เหมาะมากสำหรับคนที่รักสุขภาพและชอบออกกำลังกาย โดยสมาร์ทวอชท์สามารถตรวจจับวัดชีพจร ตรวจสอบการหลับนอนของเรา และดูแลการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกายของเราเอง อีกทั้งยังสวใส่ได้ทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา หรือสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แท้ทรู

โดยสมาร์ทวอทช์แต่ละยี่ห้อ ก็จะมีความโดดเด่นทั้งด้านฟีเจอร์การทำงาน และดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย สวมใส่ผสมผสานความเป็น Fashion และ Sport เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

“แต่การจะเลือกสมาร์ทวอทช์สักเรือนมาสวมใส่ จะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง สมาร์ทวอทช์มีความแตกต่างจากนาฬิกาทั่วไปอย่างไร แล้วเลือกแบบไหน ถึงจะถูกใจและใช่สำหรับคุณ!”

ทำความรู้จักสมาร์ทวอทช์

สมาร์ทวอทช์ เป็นเหมือนกับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ย่อส่วนกลายมาเป็น นาฬิกาข้อมือดิจิตอล ในบางรุ่นการประมวลผลสามารถทำผ่านการเชื่อมต่อกับมือถือและอินเตอร์เน็ตได้ ในบางรุ่นสามารถประมวลผลได้ด้วยตัวเอง

สมาร์ทวอทช์มาพร้อมกับฟีเจอร์และแอพลิเคชั่นที่ช่วยส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่หลากหลาย หน้าจอแสดงผลแบบระบบสัมผัส มีให้เลือกทั้งแบบ OLED, ION-X, AMOLED, SUPER AMOLED, LCD ฯ มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Android, IOS, Tizen, windows และอื่นๆ

แต่สมาร์ทวอทช์ที่เราเห็นส่วนใหญ่ตมท้องตลาดบ้านเรา ก็จะเป็นรูปแบบทำงานประมวลผลผ่านมือถือสมาร์ทโฟน เนื่องจากการทำงานจะมีความสเถียรมากกว่า แบตเตอรี่อยู่ได้ยาวนานมากกว่า และสวมใส่มีน้ำหนักเบา 

ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมาก ตรงกันข้ามกับนาฬิกาอัจฉริยะที่มีระบบประมวลผลในตัว จะมีราคาที่สูงกว่า แต่ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่า ไม่จำเป็นต้องพกมือถือตลอดเวลา และสามารถติดตั้งแอพลิคชั่นเพิ่มเติมได้ พร้อมแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่มากกว่า ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักมาก จึงไม่ค่อยเหมาะหากต้องการสวมใส่สมาร์ทวอทช์ตลอดเวลา

ดีไซน์สมาร์ทวอทช์สวมใส่ได้ทุกแนว

ปกติแล้วคนจะชอบคิดว่าสมาร์ทวอทช์จะมีดีไซน์แบบลุคแมนๆเท่ๆ ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงบ้าง หรือไม่เหมาะที่จะสวมใส่ตลอดกิจกวัตรประจำวัน อยากขอให้ลืมแนวคิดเหล่านี้ไปเลยค่ะ! เพราะว่าสมาร์ทวอทช์เดี๋ยวนี้ มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความทันสมัย ดูเก๋ๆ นำเทรนด์ สวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีให้เลือกทั้งหน้าปัดกลม หน้าปัดเหลี่ยม หน้าปัดเข็ม หรือหน้าปัดดิจิตอล

นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นเพิ่มเติมที่สายนาฬิกา ที่ในบางรุ่นสามารถเลือกเปลี่ยนสายได้ตามความชอบ มีให้เลือกทั้งสายหนัง สายผ้า สายเหล็ก สายยาง และสายซิลิโคน

ระบบปฏิบัติการสมาร์ทวอทช์

สมาร์ทวอทช์ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดปัจจุบัน หลักๆก็จะสามารถรองรับระบบปฏิบัติการได้ 2 ระบบ คือ ระบบปฏิบัติการ Android และ ระบบปฏิบัติการ IOS โดยก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกสมาร์ทวอทช์มาใช้งาน ควรพิจารณาก่อนว่า ตัวเองจะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการอะไร เพราะเราต้องใช้เชื่อมต่อกับมือถือสมาร์ทโฟน

เช่น หากคุณใช้มือถือระบบปฏิบัติการ Android ก็ต้องเลือกสมาร์ทวอทช์ ที่สามารถรองรับ Android ได้ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Garmin หรือ Suunto ส่วนใครที่ใช้มือถือะบบปฏิบัติการ IOS ก็จัดไปเลย Apple Watch แต่ปัจจุบันสมาร์ทวอชท์หลายยี่ห้อ ได้พัฒนาให้สามารถรองรับหลายระบบแล้ว เช่นสมาร์ทวอทช์จาก Samsung และ Suunto ที่สามารถรองรับได้ทั้ง Android กับ IOS

หากใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์คู่ใจกันอยู่ อยากแนะนำให้ลองแวะเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่หน้าเว็บไซด์ของเรา >> สมาร์ทวอทช์ ราคาถูก << หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดสินค้าได้ที่ Call Center 1284