Header Ads

test
Homepro Promotion

อยากได้เครื่องออกกำลังกายกำหนดเป้ามายอย่างชัดเจนเสียก่อน

บอกเลยว่ากระแสรักสุขภาพ เทรนด์การออกกำลังกาย กำลังมาแรงมากในปัจจุบัน คุณอาจจะเห็นตาม Social Media ว่าเพื่อนๆของเราเริ่มเช็คอินสวนสาธารณะบ้าง ไปวิ่งมาราธอนบ้าง ไปฟิตเนสบ้าง บางคนก็ถ่ายรูปกล่องข้าวอาหารคลีนอวดกันบ้าง เยอะแยะไปหมด


ด้วยกระแสที่มาแรงม๊ากมากแบบนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าหลายคนอยากที่จะได้เครื่องออกกำลังกายมาใช้งานกันที่บ้าน ทั้งนี้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการออกกำลังกาย กลับมาบ้านออกกำลังสัก 30 นาทีแล้วค่อยอาบน้ำเข้านอนแบบฟินๆ … แต่ที่พูดมาทั้งหมด อาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝัน !

ทำไมถึงเป็นเรื่องเพ้อฝัน ?


มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลย ที่ตัดสินใจเลือกเครื่องออกกำลังกายมาใช้งานที่บ้านตามกระแสรักสุขภาพ ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆนะ แต่ว่าก็ล้มเลิกกันกลางคัน ออกกำลังกายได้เพียง 1-2 เดือน ก็วางทิ้งเอาไว้เป็นราวตากผ้าไป ฝุ่นจับ หยากใย่ขึ้น … สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะคุณไม่มีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจ

แล้วจะทำอย่างไรถึงจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจกลางคัน ? ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่คุณกำหนดเป้าหมายในใจอย่างชัดเจน เราต้องการที่จะใช้เครื่องออกกำลังกายเพื่ออะไร เพื่อสุขภาพ เพื่อลดน้ำหนัก หรือเพื่อการสร้างกล้ามเนื้อ และสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้เป้าหมายเลยก็คือเรื่องของ “ความตั้งใจของตัวคุณเอง”

การตั้งเป้าหมาย และ ความตั้งใจ


การที่เราตั้งเป้าหมาย และมีความตั้งใจไปพร้อมๆกัน จะทำให้เรารู้สึกได้ถึงความสำเร็จที่แน่ชัด กำลังใจในการใช้งานเครื่องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ภาพจาก Three Steps Forward, Zero Steps Back - WordPress.com

โดยการวางเป้าหมาย อาจจะต้องวางแบบเป็นขั้นเป็นตอน คือมองหาจุดสูงสุดของความต้องการ และแนวทางการปฏิบัติเพื่อที่จะมุ่งสู่เป้าหมายที่เราตั้งใจ อาทิเช่น เราต้องการมีรูปร่างที่ดี เราตั้งเป้าหมายไปเลยว่า น้ำหนักเท่าไหร่ รูปร่างสมส่วนขนาดไหน สามารถกลับไปใส่เสื้อผ้าตัวเก่าได้แบบหลวมๆสบายๆ เป็นต้น

หลังจากการตั้งเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ให้มามองหาอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกาย ว่าแบบไหนที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเราให้ไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเริ่มลงมือทำเลยทันที !

ตรวจสอบพัฒนาการ


การตรวจสอบพัฒนาการหรือผลลัพธ์แบบเป็นระยะๆ ก็จะสามารถช่วยสร้างความสนุกและแรงบันดาลใจในการสู้ต่อไปได้อย่างดีเยี่ยม อาทิเช่น การจดบันทึกน้ำหนักหรือสัดส่วนของร่างกาย เพื่อเปรียบเทียบก่อนหลัง แนะนำว่าควรจะตรวจสอบประมาณ 1-2 อาทิตย์ครั้งก็พอ ไม่ควรตรวจทุกวัน

ภาพจาก gadgets.ndtv.com

เพราะหากเราตรวจสอบกันทุกวัน ชั่งน้ำหนักทุกวัน เฮ้อ ไม่ลดสักที เบื่อจัง เหนื่อยจัง ทำไมน้ำหนักไม่ลดนะ อารมณ์ความท้อแท้จะเริ่มแทรกแซงเข้ามาในจิตใจ เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หลายคนล้มเลิกความตั้งใจไปก่อนถึงฝั่งฝันหลายคนเลยทีเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง



ไม่มีความคิดเห็น